ถุงยางอนามัย เป็นอุปกรณ์คุมกำเนิด ทำด้วยวัสดุจากยางพารา หรือโพลียูรีเทน โดยมีทั้งแบบสำหรับผู้ชายและผู้หญิง ส่วนหใญ่ฝ่ายชายจะเป็นฝ่ายใช้ โดยใช้สวมตครอบอวัยวะเพศชายขณะร่วมเพศ โดยเมื่อฝ่ายชายหลั่งน้ำอสุจิแล้ว น้ำอสุจิจะถูกเก็บไว้ในถุงยางอนามัย ช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ และยังช่วยป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้ด้วย
ชนิดของถุงยางอนามัย
ถุงยางอนามัยที่มีการผลิตจำหน่ายในโลกนี้ มี 3 ชนิดตามวัสดุที่ใช้
- ชนิดที่ทำจากลำไส้สัตว์ (Skin condom) วัสดุที่ใช้ผลิตเป็นส่วนของลำไส้ส่วนล่างของแกะ ที่เรียกว่า caecum มีใช้ในอเมริการ้อยละ 5 เขาว่าใช้แล้วรู้สึกสบายยามส่วนใส่ ไม่รัดรูป ให้ความรู้สึกสัมผัสที่ดีในขณะมีเพศสัมพันธ์ เชื่อว่าวัสดุจากลำไส้สัตว์สามารถสื่อผ่านความอบอุ่นของร่างกายสู่กันได้ และความชุ่มชื่นจากสารคัดหลั่งสามารถซึมผ่านเนื้อเยื่อได้ แต่เนื่องจากผิวของวัสดุมีรูพรุนเล็ก ๆ ที่ขวางได้เฉพาะตัวอสุจิเท่านั้น จึงไม่สามารถป้องกันเชื้อโรคติดต่อทางเพษสัมพันธ์ได้ skin condom มีความหนา 0.15 มิลลิเมตร และไม่สามารถยืดตัวได้ (แต่มีความอ่อนนุ่ม) จึงสวมใส่แบบหลวม ๆ ไม่รัดแนบแน่นแบบที่ทำจากยางธรรมชาติ ขนาดความกว้างเมื่อวางแบนราบ มีตั้งแต่ 62 มิลลิเมตร ถุง 80 มิลลิเมตร ถุงยางชนิดนี้ไม่มีการผลิตจำหน่ายในเมืองไทย
- ชนิดที่ทำจากน้ำยางธรรมชาติ (rubber condom latex condom) จากวัสดีที่ทำนี่เองจึงเป็นที่มาของคำว่า "ถุงยางอนามัย" ถุงยางที่ถูกสุขอนามัย สะอาด ถุงยางอนามัยที่มำจากยางธรรมชาตินี้มีราคาถูกกว่า บางกว่า ยืดหยุ่นได้ดีกว่าแบบที่ทำจากลำไส้สัตว์ จึงมีขนาดความกว้างน้อยกว่า การสวมใส่กระชับรัดแนบเนื้อ สามารถใช้ได้ทั้งเพื่อการคุมกำเนิด และป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้ด้วย
- ชนิดที่ทำจาก Polyurethane (ถุงยางพลาสติก) ปัจจุบันได้มีการนำวัสดุอื่นมาผลิตเป็นถุงยางอนามัย เช่น สาร Polyurethane เพราะถุงยางอนามัยที่ทำจากยางธรรมชาติก็มีข้อด้อย เช่น แพ้ รั่วได้ ใช้สารล่อลื่นบางชนิดไม่ได้ กลิ่นไม่ค่อยชวนดม เรียกถุงยางอนามัยชนิดนี้ว่า ถุงยางพลาสติก (plastic condom) แต่ถุงยางชนิดนี้ให้ความรู้สึกที่ดีกว่าแบบที่ทำจากน้ำยางธรรมชาติ คงทนกว่าแบบยางธรรมชาติ สามารถใช้สารหล่อลื่นที่ทำจากผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีได้ เท่าที่มีจำหน่ายในสหรัฐอเมริกา ใช้ชื่อ AVANTI เป็นของ DUREX
ขนาดของถุงยางอนามัย
คุณภาพมาตรฐานและข้อกำหนดของถุงยางอนามัยตามประกาศของกระทรวงสาธารณสุข ปี 2535 ได้กำหนดประเภทของถุงยางอนามัยที่ทำจากน้ำยางธรรมชาติเป็น 13 ประเภท ตามขนาดความกว้าง คือตั้งแต่ขนาด 44 มิลลิเมตร จนถึงขนาด 56 มิลลิเมตร และกำหนดความยาวของถุงยางวัดจากปลายเปิดจนถึงปลายปิด ไม่รวมส่วนมี่เป็นติ่งหรือกระเปาะ ต้องไม่น้อยกว่า 160 มิลลิเมตร ซึ่งกำหนดตามมาตรฐานขององค์การกำหนดมาตรฐานระหว่างประเทศ (ISO) ปี ค.ศ. 1990
สำหรับตลาดในเมืองไทยเท่าที่มีจำหน่ายมีอยู่ 2 ขนาด คือขนาดใหญ่กับขนาดยักษ์
ขนาดใหญ่ หรือขนาด 49 มิลลิเมตร มีขนาดความกว้างเมื่อวางถุงยางที่คลี่แล้วแบนราบกับพื้น วัดจากขอบหนึ่งถึงขอบหนึ่ง 49 มิลลิเมตร มีขนาดความกว้างไม่น้อยกว่า 160 มิลลิเมตร ขนาดนี้เหมาะกับคนไทยมากที่สุด
ขนาดยักษ์ หรือขนาด 52 มิลลิเมตร ความกว้างเมื่อวางแบนราบเท่ากับ 52 มิลลิเมตร ความยาวเท่ากับ 180 มิลลิเมตร
ขั้นตอนการใช้ถุงยางอนามัย
- บรรจงฉีกซองอย่างระมัดระวัง แล้วหยิบออกจากซองอย่างนิ่มนวล ระวังอย่าให้ถุงยางอนามัยสัมผัสกับเล็บหรือของประดับที่มีคม
- ถุงยางอนามัยบรรจุในซองในลักษณะม้วนเป็นรูปวงแหวน ให้รอยม้วนอยู่ด้านนอก คลี่ถุงยางออกมาสัก 1 - 2 เซนติเมตร
- ใช้นิ้วหัวแม่มือและนิ้วชี้บีบกระปาะ (ติ่งตรงปลาย) ไล่ลมออก น้ำมาครอบปลายอวัยวะเพศ (ถ้าหนังหุ้มยาวต้องรูดขึ้นไปให้พ้นปลายหัว)
- ใช้อีกมือรูดถุงยางขึ้นไปจนถึงโคร (อีกมือยังคงบีบปลายดิ่งอยู่)
- ถ้าใส่ถูกต้อง ตรงติ่งต้องแบนไม่มีลมอยู่ภายใน (ถ้าเป็นแบบปลายมาต้องเหลือปลายถุงยางไว้สัก 1 เซนติเมตร) ทั้งนี้เพื่อป้องกันถุงยางอนามัยแตก
- ถ้าความหล่อลื่นไม่พอ ก็สามารถทาสารหล่อลื่นเพิ่มเติมได้ แต่ต้องหลังจากสวมใส่แล้ว และสารหล่อลื่นที่ใช้ต้องมีส่วนผสมเป็นน้ำ หรือซิลิโคน เช่น ky - jelly อย่ามักง่ายใช้วาสลีนโดยเด็ดขาด เพราะวาสลีนเป็นเจลที่มี petroleum เป็นส่วนประกอบ
- หลังจากมังกรพ่นพิษ ห้ามรอดูผลงาน ห้ามแช่ ต้องรีบถอยถอนสมอโดยเร็วก่อนที่นกเขาจะหลับ ไม่งั้นถุงยางจะหลุดค้างคาในถ้ำ
- ตอนถอดสมอ มือต้องจับขอบปลายส่วนเปิดไว้ด้วย ไม่งั้นถุงยางอาจถูกหนีบออกแต่ตัว แต่เสื้อหลุดได้ และเมื่อออกมาแล้วต้องระมัดระวังมืออย่าไปโดนด้านนอกของถุงยางที่มีสารคัดหลั่งของฝ่ายหญิงอยู่ อาจติดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้ (กรณีมีเพศสัมพันธ์กับหญิงอื่นที่มิใช่ภรรยา)
- เมื่อถอดออกแล้ว จะทดสอบรอบรั่วได้ โดยเอาไปรองน้ำจากก๊อก ใส่ถุงยางที่ใช้แล้ว ถ้ารั่วก็จะเห็นได้
ประสิทธิภาพของถุงยางอนามัยในการป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
- โรคเอดส์ ป้องกันมากกว่า 90%
- โรคไวรัสอักเสบ บี ป้องกันมากกว่า 90%
- หูดหงอนไก่ ไม่ได้ผล หรือป้องกันได้ 10 - 50%
- หนองในเทียม ป้องกันได้ 50 - 90%
- หนองในแท้ ป้องกันมากกว่า 90%
- พยาธิในช่องคลอด ป้องกันมากกว่า 90%
- ซิฟิลิส ป้องกันได้ 50 - 90%
- โรคเริม ป้องกันได้ 10 - 50%
- โรคแผลริมอ่อน ป้องกันได้ 10 - 50%
เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย
หากสินค้าแบรนด์ดังทั้งหลายหันมาผลิต ถุงยาง ดูสิว่ายี่ห้อไหนโดนใจคุณ
- ถุงยางเลย์ อร่อยชิ้นเดียวไม่เคยพอ
- ถุงยางแมคโดนัลด์ อร่อยรส สนุกล้ำ
- ถุงยาง M&M ละลายในปากไม่ละลายในมือ
- ถุงยางคลอสเตอร์ รสชาติที่คุณดื่มได้
- ถุงยางลีโอ ถูกคอ ถูกใจ
- ถุงยางไนกี้ Just Do It
- ถุงยางแป๊ปซี่ รสชาติของคนรุ่นใหม่
- ถุงยางเอนเนอร์ไจเซอร์ ให้พลังงานนานกว่าถุงยางธรรมดาถึง 7 เท่า
- ถุงยางแอร์โรว์ เอกลักษณ์ของเอกบุรุษ
- ถุงยางมิต้า เล็ก ๆ มิต้าไม่ ใหญ่ ๆ มิต้าทำ
- ถุงยางโค้ก ส่งถุงยางส่งยิ้ม
- ถุงยางเอไอเอส ถุงยางเหนือระดับ ทุกที่ ทุกเวลา
- ถุงยางใกล้ชิด รักแท้แพ้ถุงยาง
- ถุงยางวอลโว่ ทุกชีวิตปลอดภัยในถุงยาง...
- ถุงยางลิโพ คำเตือน : ห้ามใช้เกินวันละ 2 ห่อ และโปรดอ่านคำเตือนบนฉลากก่อนใช้ทุกครั้ง
โรคเอดส์
- เอดส์ พบครั้งแรกในจังหวัดเชียงใหม่ พ.ศ. 2531 หรือ 20 ปีที่ผ่านมา
- เอดส์ จะปรากฎอาการระยะที่ 2 ใน 7 - 10 ปี