tag:blogger.com,1999:blog-62742884316949459272024-03-12T17:10:33.306-07:00★ ♂♀ ★ t o o k t i k ★ ♂♀ ★show me your 'smile'★♀★ t o o k t i k ★♀★http://www.blogger.com/profile/14571821218239697177noreply@blogger.comBlogger7125tag:blogger.com,1999:blog-6274288431694945927.post-63652678083385858462008-09-05T01:53:00.000-07:002008-09-05T04:16:08.109-07:00ทำธุรกิจอย่างไรให้ประสบผลสำเร็จ<span style="font-family:courier new;color:#3333ff;"><strong>ความหมายและความสำคัญของธุรกิจ</strong></span><br /><span style="font-family:courier new;">ธุรกิจ (Business) หมายถึง กระบวนการของกิจการทางเศรษฐกิจที่สัมพันธ์เป็นระบบและอย่างต่อเนื่องในด้านการผลิต การซื้อขายแลกเปลี่ยนเกี่ยวกับสินค้าและบริการโดยมีจุดมุ่งหมายที่จะได้กำไรหรือผลตอบแทนจากกิจกรรมนั้น ดังนั้นอาจกล่าวได้ว่ากิจกรรมใดที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อให้ได้กำไร (Profit) ถือว่าเป็นธุรกิจ เช่น บริษัท, ห้างร้าน ตลอดจนรัฐวิสาหกิจต่าง ๆ การดำเนินของรัฐ เช่น การป้องกันประเทศ, การสร้างถนนหนทาง, โรงเรียน, โรงพยาบาล และอื่น ๆ ไม่ถือว่าเป็นธุรกิจ เพราะไม่ได้มีจุดมุ่งหมายด้านกำไร แต่เป็นการให้บริการแก่ประชาชนโดยมีจุดมุ่งหมายให้ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น</span><br /><span style="font-family:courier new;">ธุรกิจใสมัยใหม่จะมองแต่เรื่องของกำไรไม่ได้ ที่สำคัญต้องมองและนึกถึงลูกค้าหรือผู้บริโภค ว่าจะได้รับอะไรจากสินค้าหรือบริการ และทำให้เศรษกิฐ การเมือง และสังคมเจริญไปด้วย</span><br /><span style="font-family:courier new;"></span><br /><span style="font-family:courier new;color:#3333ff;"><strong>ความสำคัญของธุรกิจ</strong></span><br /><ol><li><span style="font-family:courier new;">ธุรกิจช่วยให้เศรษฐกิจของชาติมีความเจริญก้าวหน้าและมั่นคง</span></li><li><span style="font-family:courier new;">ธุรกิจทำให้ประชาชนมีมาตรฐานการดำรงชีวิตที่ดีขึ้น</span></li><li><span style="font-family:courier new;">ธุรกิจทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้น</span></li><li><span style="font-family:courier new;">ธุรกิจช่วยแก้ปัญหาทางสังคม</span></li><li><span style="font-family:courier new;">ธุรกิจทำให้เกิดความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยี</span></li></ol><p><span style="font-family:courier new;"></span></p><p><span style="font-family:courier new;color:#3333ff;"><strong>หลักการทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จ</strong></span></p><p><span style="font-family:courier new;"><em>หลักการ = เอาผลลัพธ์สุดท้าย นั่นก็คือ กำไร แล้วจะทำอย่างไรที่จะเอาผลที่ได้จากการทำธุรกิจคืนให้กับประเทศชาติ</em></span></p><p><span style="font-family:courier new;"><strong>องค์ประกอบสำคัญที่จะทำให้ผู้ประกอบการประสบความสำเร็จในธุรกิจมีอยู่ 10 ประการ </strong>คือ</span></p><ol><li><span style="font-family:courier new;">กระหายในความสำเร็จ ถือเป็นหัวใจสำคัญในการประกอบธุรกิจ เพราะหากไม่มีความต้องการในข้อนี้ก็จะไม่มีพลังผลักดันให้ผู้ประกอบการลุกขึ้นมาดำเนินการให้บรรลุตามเป้าได้เลย</span></li><li><span style="font-family:courier new;">ชอบเสี่ยง เป็นที่รู้จักกันดีว่า "ธุรกิจ" กับ "ความเสี่ยง" เป็นของคู่กัน ดังนั้น การจะตัดสินใจทำอะไรก็แล้วแต่ควรอยู่บนพื้นฐานความเสี่ยงน้อยที่สุด ควรตัดสินใจให้รอบคอบและไม่ประมาท</span></li><li><span style="font-family:courier new;">มีความคิดสร้างสรรค์ และสร้างฝันให้ยิ่งใหญ่ ผู้ประกอบการควรมีวิสัยทัศน์ที่กว้างไกล มองให้รอบด้านสามารถมองจากจุดเล็ก ๆ และสานฝันให้สามารถขยายกิจกาให้ใหญ่โตขึ้นได้</span></li><li><span style="font-family:courier new;">มีความยึดมั่นไม่ย่อท้อ ผู้ประกอบการที่จะประสบความสำเร็จได้คือบุคคลที่ไม่ล้มเลิกอะไรง่าย ๆ ควรมองว่าความล้มเหลวหลายต่อหลายครั้งที่เกิดขึ้นเปรียบเสมือนบันไดที่จะนำเราไปสู่จุดที่สูงกว่า</span></li><li><span style="font-family:courier new;">มีความเชื่อมั่น ผู้ประกอบการควรมีความเชื่อมั่นในตัวเอง กล้าที่จะลองในสิ่งใหม่ ๆ เพราะอย่างน้อยนั่นก็คือการให้กำลังใจที่ดีที่สุดแก่ตัวเอง</span></li><li><span style="font-family:courier new;">มีความสามารถในการตัดสินใจ การตัดสินใจถือเป็นการสร้างความมั่นใจให้เพิ่มขึ้นไม่ว่าผลของการตัดสินใจนั้นจะสำเร็จหรือล้มเหลว แต่หากได้ลองทบทวนเหตุผลให้ดีแล้ว ก็จงเคารพในการตัดสินใจนั้น</span></li><li><span style="font-family:courier new;">มองการเปลี่ยนแปลงคือโอกาส การเปลี่ยนแปลงถือเป็นโอกาสสำคัญอย่างหนึ่งทางธุรกิจ สิ่งใหม่ ๆ อาจเกิดขึ้นในช่วงนี้ หากเรารู้จักนำการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ มาปรับใช้ให้เกิดประโยชน์ ก็คือเป็นผลพลอยได้อย่างหนึ่งทางธุรกิจ</span></li><li><span style="font-family:courier new;">มีความอดทนต่อความไม่แน่นอน ควรเตรียมพร้อมที่จะเผชิญกับสิ่งที่ไม่คาดฝัน ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลาทั้งด้านดีและด้านร้าย ตลอดจนปัจจัยที่ไม่ควบคุมได้ด้วยตัวเรา เช่น ปัจจัยทางเศรษฐกิจ สภาพภูมิอากาศ ฯลฯ ควรอดทนรอคอยสิ่งดี ๆ ที่จะมาถึงในอนาคต</span></li><li><span style="font-family:courier new;">รู้จักเริ่มต้นและต้องการความสำเร็จที่สมบูรณ์แบบ ผุ้ประกอบการที่ดีควรเอาใจใส่ในยละเอียดทุกอย่างในธุรกิจของตน ไม่ควรมุ่งพัฒนาเพียงด้านเดียว ควรมองไปรอบ ๆ หาจุดบกพร่องและแก้ไขให้ดีขึ้น</span></li><li><span style="font-family:courier new;">ตระหนักในคุณค่าของเวลา เวลาเป็นสิ่งที่มีค่าสำหรับทุกอาชีพ การตรงต่อเวลาและใช้เวลาที่มีอยูให้เกิดประโยชน์สูงสุดถือเป็นกำไรชีวิต และกำไรทางธุรกิจอีกอย่างหนึ่งที่ประเมินค่ามิได้</span></li></ol><p><span style="font-family:courier new;color:#3333ff;"><strong></strong></span></p><p><span style="font-family:courier new;color:#3333ff;"><strong>ทฤษฎีระบบ</strong></span></p><p><span style="font-family:courier new;">การเอาแนวความคิดเชิงระบบเข้ามาใช้ในการบริหาร ก็ด้วยเหตุผลที่ว่าในปัจจุบันองค์กรการขยายตัวสลับซับซ้อนมากขึ้น จึงเป็นการยากที่พิจารณาถึงพฤติกรรมขององค์กรได้หมดทุกแง่ทุกมุม นักทฤษฎีบริหการสมัยใหม่จึงหันมาสนใจศึกษาพฤติกรรมขององค์การ เพราะตนเป็นส่วนหนึ่งของระบบองค์การ องค์การเป็นส่วนหนึ่งของระบบสังคม</span></p><p><span style="font-family:courier new;color:#3333ff;"><strong>ความหมายของทฤษฎีระบบ</strong></span></p><p><span style="font-family:courier new;">ระบในเชิงบริหาร หมายถึง องค์กรประกอบหรือปัจจัยต่าง ๆ ที่มีความสัมพันธ์กันและมีส่วนหระทบต่อปัจจัยระหว่างกันในการดำเนินงานเพื่อให้บรลุวัตถุประสงค์ขององค์การ</span></p><p><span style="font-family:courier new;"><strong><span style="color:#3333ff;"></span></strong></span></p><p><span style="font-family:courier new;"><strong><span style="color:#3333ff;">องค์ประกอบพื้นฐานของทฤษฎีระบบ</span></strong> ได้แก่</span></p><ol><li><span style="font-family:courier new;">ปัจจัยการนำเข้า (Input)</span></li><li><span style="font-family:courier new;">กระบวนการ (Process)</span></li><li><span style="font-family:courier new;">ผลผลิต (Output)</span></li><li><span style="font-family:courier new;">ผลกระทบ (Impact)</span></li></ol><p><span style="font-family:courier new;"><strong>Input ----> Process ----> Output (Impace/Outcome)</strong></span></p><p><span style="font-family:courier new;"><strong></strong></span></p><p><span style="font-family:courier new;color:#3333ff;"><strong>4 M</strong></span></p><p><span style="font-family:courier new;">Man บุคลากร</span></p><p><span style="font-family:Courier New;">Method วิธีการ</span></p><p><span style="font-family:courier new;">Meterial วัตถุดิบ</span></p><p><span style="font-family:Courier New;">Mechine เครื่องจักร</span></p><p><span style="font-family:Courier New;"></span></p><p><span style="font-family:Courier New;color:#3333ff;"><strong>การจัดการเชิงกลยุทธ์ (Strategic Management)</strong></span></p><p><span style="font-family:Courier New;">โดยทั่วไปหมายถึง การกำหนดวิสัยทัศน์ (Vision) พันธกิจ (Mission) วัตถุประสงคื (Objective) เป้าหมาย (Goal) ขององค์การในระยะสั้นและระยะยาว จากนั้นจึงวางแผนทำกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อให้องค์การสามารถดำเนินงานตามพันธกิจอันนำไปสู่การบรรลุวัตถุประสงค์และเป้าหมายที่กำหนดไว้</span></p><p><span style="font-family:Courier New;"></span></p><p><span style="font-family:Courier New;color:#3333ff;"><strong>แนวคิดที่สำคัญในการจัดการเชิงกลยุทธ์</strong></span></p><p><span style="font-family:Courier New;">แนวคิดพื้นฐานที่สำคัญของกรจัดการเชิงกลยุทธ์ คือการกำหนดภารกิจ วัตถุประสงค์ และเป้าหมายของกิจการทั้งในระยะสั้นและระยะยาว โดยการจัดการเชิงกลยุทธ์และการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์จะมีผลกระทบต่อการดำเนินงานในระยะยาว อีกทั้งยังคำนึงถึงความสำคัญขงผู้มีส่วนได้ส่วนเสียกับองค์การ (Stakeholders) การจัดการเชิงกลยุทธ์ยังทำหน้าที่ในการเชื่อมโยงประสานหน่วยต่าง ๆ ในองค์การให้สามารถบริหารจัดการเพื่อบรลุเป้าหมายขององค์การร่วมกัน</span></p><p><span style="font-family:Courier New;"></span></p><p><span style="font-family:Courier New;color:#3333ff;"><strong>TEAM ประกอบไปด้วย</strong></span></p><p><span style="font-family:Courier New;">MAN : มีวิสัยทัศน์ มีประสบการณ์ มีสัมมาฑิฐฏิ มีประสิทธิภาพ</span></p><p><span style="font-family:Courier New;">GOAL : กระชับ ปฏิบัติได้จริง ชัดเจน ตรงประเด็น</span></p><p><span style="font-family:Courier New;">RULES : กรอบแนวความคิด กฎระเบียบ การมีส่วนร่วม มีการประชาสัมพันธ์</span></p><p><span style="font-family:Courier New;"></span></p><p><span style="font-family:Courier New;color:#3333ff;"><strong>องค์ประกอบของการจัดการเชิงกลยุทธ์</strong></span></p><p><span style="font-family:Courier New;">การจัดการเชิงกลยุทธ์ ประกอบด้วยองค์ประกอบย่อยพื้นฐาน 5 ประการคือ</span></p><ol><li><span style="font-family:Courier New;">การกำหนดทิศทาง (Direction Setting)</span></li><li><span style="font-family:Courier New;">การประเมินองค์การและสภาพแวดล้อม (Environment Scanning)</span></li><li><span style="font-family:Courier New;">การกำหนดกลยุทธ์ (Strategy Formulation)</span></li><li><span style="font-family:Courier New;">การดำเนินกลยุทธ์ (Strategy Implementation)</span></li><li><span style="font-family:Courier New;">การประเมินผลและกรควบคุม (Evaluation and Control)</span></li></ol><p><span style="font-family:Courier New;"></span></p><ol><li><span style="font-family:Courier New;">การกำหนดทิศทาง</span><span style="font-family:Courier New;">ภารกิจ (Mission)หมายถึง ประกาศหรือข้อความของบริษัทที่พยายามกำหนดว่าจะทำอะไรในปัจจุบัน กำลังจะทำอะไรในอนาคต และองค์การเป้นองค์การแบใดและจะก้าวไปสู่องค์การแบบใด ทั้งนี้เพื่อบรรลุสู่ความเป็นเลิศเหนือคู่แข่ง เป้าหมาย (Gold) เป้าหมายเป็นการบอกถึงสิ่งที่องค์การปรารถนาให้เกิดขึ้นในอนาคตและพยายามบรรลุ โดยมีการกำหนดให้ชัดเจน กระชับ ตรงจุด และสามารถวัดได้ทั้งนี้การกำหนดเป้าหมายจะมีการกำหนดให้ชัดเจนขึ้นกว่าการกำหนดภารกิจว่าจะต้องทำสิ่งใดที่สามารถปฏิบัติได้จริง</span></li><li><span style="font-family:Courier New;">การประเมินองค์การและสภาพแวดล้อม (Environment Scanning) ประกอบไปด้วยการประเมินสภาพแวดล้อมภายนอกและกรประเมินสภาพแวดล้อมภายในโดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อให้ทราบถึงจุดแข็ง จุดอ่อน โอกาส และอุปสรรค โดยทั่วไปจะเรียกว่าการวิเคาระห์ตามตัวแบบสว็อท (SWOT Analysis) ได้แก่ การวิเคาระห์จุดแข็ง (Strength - S) การวิเคาระห์จุดอ่อน (Weakness - W) การวิเคาระห์โอกาส (Oppertunity - O) การวิเคาระห์ภาวะคุกคาม (Threst - T) โดยยังสามารถแบ่งออกได้เป็นอีก 2 ระดับย่อยอีก คือ 2.1 การวิเคราะห์สภาพแวดล้อมภายในองคการ (Internal Analysis) 2.2 การวิเคราะห์สภาพแวดล้อมภายนอกองค์การ (Rxternal Analysis) ได้แก่ 1) สภาพแวดล้อมด้านการเมือง 2) สภาพแวดล้อมด้านเศรษฐกิจ 3) สภาพแวดล้อมด้านสังคม 4) สภาพแวดล้อมด้านเทคโนโลยี</span></li><li><span style="font-family:Courier New;">การกำหนดกลยุทธ์ (Strategy Formulation) การกำหนดกลยุทธ์เป็นการพัฒนาแผนระยะยาวบนรากฐานของโอกาสและอุปสรรคที่ได้จากการวิเคราะห์สภาพแวดล้อมภายนอกและการวิเคาะห์จุดแข็ง จุดอ่อน ที่ได้จากการวิเคราะห์สภาพแวดล้อมภายใน โดยองค์การจะต้องกำหนดและเลือกกลยุทธ์ที่ดีที่สุดที่เหมาะสมกับองค์การที่สุด ผู้บรหารต้องพยายามตอบคำถามว่า ทำอย่างไรองค์การจึงจะไปถึงเป้าหมายที่ได้กำหนดไว้ได้ โดยใช้ความได้เปรียบในการแข่งขันขององค์การกำหนดเป็นกลยุทธ์ทั้งนี้จะต้องคำนึงถึงระดับที่แตกต่างกันของกลยุทธ์ดวย ซึ่งมีทั้ง 3 ระดับคือ กลยุทธ์ระดับองค์การ กลยุทธฺระดับธุรกิ และกลยุทธ์ระดับปฏิบัติการ</span></li><li><span style="font-family:Courier New;">การดำเนินกลยุทธ์ (Strategy Implementation) การนำกลยุทธ์ไปปฏิบัติ คือกระบวนการที่บริหารแบ่งกลยุทธ์และนโยบายไปสู่แผนการดำเนินงาน กำหนดรายละเอียดด้านต่าง ๆ เช่น ด้านงบประมาณ หรือวิธีการดำเนินงาน ซึ่งกระบวนนี้อาจจะเกี่ยข้องกับการเปลี่ยนแปลงภายในด้านวัฒนธรรม โครงสร้างหรือระบบการบริหารเพื่อให้สามารถดำเนินการตามกลยุทธ์ได้อย่างเป็นรูปธรรม โดยทั่วไปจะประกอบด้วย 4 องค์ประกอบคือ 1) ขั้นตอนของการกำหนดแผนและการจัดสรรทรัพยากร 2) ขั้นตอนของการปรับโรงสร้างองค์การ 3) ขั้นตอนของการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงในส่วนของระบบและการพัฒนาทรัพยากรบุคคล 4) การกระจายกลยุทธ์</span></li><li><span style="font-family:Courier New;">การประเมินผลและกรควบคุม (Evaluation and Control) การควบคุมกลยุทธ์เป็นหน้าที่สำคัญที่เกี่ยวข้องกับการติดตาม ตรวจสอบ ประเมินผลกลยุทธ์ที่นำไปปฏิบัติ ทั้งนี้ในการนำกลยุทธ์ไปปฏิบัตินั้นมักจะเกิดข้อผิดพลาดที่ต้องการการปรับหรุง เพื่อให้แน่ใจว่ากลุทธ์นั้นจะก่อให้เกิดผลการปฏิบัติงานที่ตรงตามแผนที่ตั้งไว้ การตวจสอบกลยุทธ์จะมีการวัดผลทั้งเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ มีการกำหนดเกณฑ์และมาตรฐานโดยมาตรวัดการดำเนินงานที่เหมาะสมกับแต่ละองค์การ ซึ่งในแต่ละองค์การจะมีมาตรฐานและเกณฑ์การดำเนินงานของตนเอง ทั้งนี้การกำหนดมาตรฐานควรมีความระมัดระวังเพื่อให้สามารถสะท้อนผลการทำงานได้อย่างเป็นรูปธรมในการติดตาม ควบคุม และประเมินผลนั้น จำเป็นจะต้องมีการจัดตั้งหน่วยงานขึ้นมาดูแลแผนกลยุทธ์ โดยเฉพาะซึ่งจะต้องมีบุคลากรท่มีความรับผิดชอบเต็มเวลา ที่สามารถทุ่มเทให้กับการติดตามและประเมินผลได้อย่างเต็มที่ หน่วยงานนี้ควรอยู่กับฝ่ายวางแผนที่มีผู้บริหารในฝ่ายอยู่ในระดับผู้บริหารชั้นสูง อย่างไรก็ตามในการดำเนินกลยุทธ์นั้นจำเป็นต้องได้รับความร่วมมือที่ดีจากทุกฝ่ายตลอดเวลา จึงอาจมีความจำเป็นในการตั้งเป็นคณะกรรมการการติดตามและประเมินผลแผนกลยุทธ์ที่ประกอบด้วยผู้แทนระดับบริหารจากฝ่ายต่าง ๆ ขึ้นร่วมด้วย</span></li></ol><p><span style="font-family:Courier New;"></span></p><p><span style="font-family:Courier New;color:#3333ff;"><strong>หลักการตลาด P-4</strong></span></p><ol><li><span style="font-family:Courier New;">Product ก็คือสินค้าหรือบริการที่เราจะเสนอให้กับลูกค้า แนวทางการกำหนดตัว Product ให้เหมาะสมก็ต้องดูว่ากลุ่มเป้าหมายต้องการอะไร เช่น ต้องการนำผลไม้ที่สะอาด สด ในบรรจุภัณฑ์ ถือสะดวก โดยไม่สนรสชาติ เราก็ต้องทำตามท่ลูกค้าต้องการ ไม่ใช่ว่าเราชอบหวานก็จะพยายามใส่น้ำตาลเข้าไป แต่โดยทั่วไปแนวทางที่จะทำสินค้าให้ขายได้มีอยู่ 2 อย่างคือ 1) สินค้าที่มีความแตกต่างโดยการสร้างความแตกต่างนั้นจะต้องเป็นสิ่งที่ลูกค้าสามารถสัมผัสได้จริงว่าต่างกันและลูกค้าตระหนักและชอบในแนวทางนี้ เช่น คุณสมบัติพิเศษ รูปลักษณ์ การใช้งาน ความปลอดภัย ความคงทน โดยกลุ่มลูกค้าที่เจะจับก็จะเป็นลูกค้าที่ไม่มีการแข่งขันมาก 2) สินค้าทีมีราคาต่ำนั้น คือการยอมลดคุณภาพในบางด้านที่ไม่สำคัญลงไป เช่น สินค้าที่ผลิตจากจีนจะมีคุณภาพไม่ดีนักพอใช้งานได้ แต่ถูกมาก ๆ หรือสินค้าที่เลียนแบบแบรนด์ดัง ๆ ในซุปเปอร์สโตรต่าง ๆ จริง ๆ แล้วสำหรับนักธุรกิจมือใหม่ควรเลือกใรแนวทางสร้างความแตกต่างมากกว่า การเป็นสินค้าราคาถูก เพราะหากเป็นด้านการผลิตแล้วรายใหญ่จะมีต้นทุนการผลิตที่ถูกกว่ารายย่อย แต่หากเป็นด้านบริการเราอาจจะเริ่มต้นที่ราคาถูก่อนแล้วค่อย ๆ หาตลาดรายใหญ่ ไม่สนใจ</span></li><li><span style="font-family:Courier New;">Price ราคาเป็นสิ่งที่ค่อนข้างสำคัญใกรตลาด แต่ไม่ใช่ว่าคิดอะไรไม่ออกก็ลดราคาอย่างเดียว เพราะการลดราคาสินค้า อาจจะไม่ได้ช่วยให้การขายดีขึ้นได้ หากปัญหาอื่น ๆ ยังไม่ได้รับการแก้ไข การตั้งราคาในที่นี้จะเป็นการตั้งราคให้เหมาะสมกับผลิตภัณฑ์ และกลุ่มเป้าหมายของเราซึ่งจะมีวิธีกำหนดราคาง่ายต่าง ๆ ดังนี้ 1) กำหนดราคาตามลูกค้า คือการกำหนดราคาตามที่เราคิว่าลุกค้าจะเต็มใจจ่าย ซึ่งอาจจะไม่ได้มาจากการทำสำรวจหรือแบบสอบถาม 2) กำหนดาคาตามตลาด คือการกำหนดราคาตามคู่แข่งในตลาด ซึ่งอาจจะต่ำมากจนเรามีกำไรน้อยดังนั้นหากเราคิดที่จะกำหนดราคาตามตลาด เราอาจจะต้องคิดคำนวณย้อนกลับว่าต้นทุนสินค้าควรเป็นเท่าไหร่ เพื่อจะได้กำไรตามที่ตั้งเป้าแล้วมาหาทางลดต้นทุน 3) กำหนดราคาตามต้นทุนบวกกำไร วิธีนี้เป็นการคำนวณว่าต้นทุนอยู่ที่เท่าใดแล้วบวกค่าขนส่ง ค่าแรงของเราบวกกำไร จึงได้มาซึ่งราคา แตหากราคาที่ได้มาสูงมากเราอาจจำเป็นต้องมีการประชาสัมพันธ์หรือปรับภาพลักษณ์ให้เหมาะกับราคานั้น</span></li><li><span style="font-family:Courier New;">Place คือวิธีการนำสินค้าไปสู่มือลูกค้า หากเป็นสินค้าที่จะขายไปหลาย ๆ แห่ง วิธีการขายหรือการกระจายสินค้าจะมีความสำคัญมาก หลักของการเลือกวิธีกระจายสินค้านั้นไม่ใช่ขายให้มาก สถานที่ที่สุดจะดีเสมอเพราะมันขึ้นอยู่กับว่าสินค้าของท่านคืออะไรและกลุ่มเป้าหมายของท่านคือใคร เช่น ของใข้ในระดับบนควรจำกัดการขายไม่ให้มีมากเกินไป เพาะอาจทำให้เสียภาพลักษณ์ได้ สิ่งที่เราควรจะคำนึงอีกอย่างของวิธีการกระจายสินค้า คือต้นทุนการกระจายสินค้า เช่น การขายสินค้าใน 7-11 อาจจะกระจายได้ทั่วถึง แต่อาจจะมีต้นทุนที่สูงกว่า หากจะกล่าวถึงธุรกิจที่เป็นการขายหน้าร้าน Place ในที่นี้ก็คือทำเล ซึ่งก็ควรเลือกที่ให้เหมาะสมกับสินค้าของเราเช่นกัน อย่างมาบุญครองกับสยามเซนเตอร์จะมีกลุ่มคนเดินที่ต่างออกไปแลกษณะสินค้าและราคาก็ไม่เหนือกันด้วย ทั้ง ๆ ที่ตั้งอยู่ใกล้กัน ท่านควรขายที่ใดก็ควรพิจารณาตามลักษณะสินค้า</span></li><li><span style="font-family:Courier New;">Promotion คือการทำกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อบอกลูกค้าถึงลักณะสินค้าของเรา เช่น โฆษณาในสื่อต่าง ๆ หรือการทำกิจกรรมที่ทำให้คนมาซื้อสินค้าของเรา เช่น การทำการลดราคาประจำปี หากจะพูดในธุรกิจขนาดย่อม การโษณาอาจจะเป็นสิ่งที่เกินความจำเป็นเพราะจะต้องใช้เงินจะมากหรือน้อยก็ขึ้นกับช่องทางที่เราจะใช้ที่จะดีและอาจจะฟรีคือ สื่ออินเตอร์เน็ต ซึ่งมีผู้ใช้เพิ่มจำนวนมากขึ้นในแต่ละปี สื่ออื่น ๆ ที่ถูก ๆ ก็จะเป็นพวกใบปลิว โปสเตอร์ หากเป็นสื่อท้องถิ่นก็จะมีรถแห่ วิทยุท้องถิ่น หนังสือพิมพ์ท้องถิ่น วิธีในการเลือกสื่อนอกจากจะดูเรื่องค่าใช้จ่ายแล้วควรมองเร่องการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายด้วย เช่น หากจะโฆษณาให้กลุ่มผู้ใหญ่โดยเลือกสื่ออินเตอร์เน็ต (เพราะฟรี) ก็อาจจะเลือกเว็บไซต์ที่ผู้ใหญ่เล่น ไม่ใช่เว็บท่วัยรุ่นเข้ามาคุยกัน เป็นต้น</span></li></ol><p><span style="font-family:Courier New;color:#3366ff;"><strong><em></em></strong></span></p><p><span style="font-family:Courier New;color:#cc33cc;"><strong><em></em></strong></span></p><p><span style="font-family:Courier New;color:#cc33cc;"><strong><em>"ถ้าอยากจะเป็นผู้ชนะคุณต้องสู้ต่อไป </em></strong></span></p><p><span style="font-family:Courier New;color:#cc33cc;"><strong><em>แล้ววันหนึ่งความสำเร็จความสำเร็จ</em></strong></span></p><p><span style="font-family:Courier New;color:#cc33cc;"><strong><em>จะเป็นของคุณอย่างแน่นอน"</em></strong></span></p><p><span style="font-family:Courier New;"></span></p><span style="font-family:courier new;"></span><br /><span style="font-family:courier new;"></span><br /><span style="font-family:courier new;"></span><br /><span style="font-family:courier new;"></span><br /><span style="font-family:courier new;"></span><br /><span style="font-family:courier new;"></span><br /><span style="font-family:courier new;"></span><br /><span style="font-family:courier new;"></span><br /><span style="font-family:courier new;"></span>★♀★ t o o k t i k ★♀★http://www.blogger.com/profile/14571821218239697177noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-6274288431694945927.post-18950113024802901902008-08-25T03:14:00.000-07:002008-08-27T04:42:03.761-07:00เทคนิคการป้องกันภัยคุกคามของการสมัครงานในยุคปัจจุบัน<span style="font-family:courier new;font-size:130%;color:#3333ff;"><strong>ภัยจากการสมัครงาน</strong></span><br /><br /><br /><strong><span style="font-family:Courier New;color:#ff6600;"><em>กรณีศึกษาที่ 1</em></span><br /><span style="font-family:Courier New;"><em></em></span></strong><br /><span style="color:#660000;"><span style="font-family:Courier New;color:#ffff99;">นี่เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นกับตัวเราเอง เมื่อวันที่ 26 ก.ค. 2547 ที่ผ่านมา เราได้ส่งจดหมายไปที่บริษัท POWER SUCCESS INTERNATIONAL CO.,LTD ที่ได้มาจากอินเตอร์เน็ต อยู่ตรง ซอยติวานนท์ 25 อาคารบิวดิ้ง ติดถนนใหญ่ จ.นนทบุรี ตำแหน่งพนักงานประสานงาน พอเข้าไปในบริษัทก็มีคนพลุกพล่านเต็มไปหมด ใส่สูทหรูดีมาก พอสักพักก็ได้เข้าไปสัมภาษณ์ในห้อง แล้วเคาก็บอกว่าน้องต้องจ่ายเงินค่าลงคอร์สสมัครสมาชิกแล้วจะได้เครื่องสำอางไปใช้ แล้วก็จะมีทีมเกิดขึ้นน้องไม่ต้องทำอะไรให้ลูกทีมทำก็จะได้เงินประมาณ 2,900 5,999 7,999 มีประมาณ 3 คอร์ส เค้าก็ถามว่าตอนนี้น้องมีเงินเท่าไรห่ เราก็บอกว่ามี 200 บาท เค้าก็ถามเราว่ามีทองไหม มีบัตรเอทีเอ็มหรือบัตรเครดิตหรือเปล่า เราก็บอกว่ามีอยู่บ้าน เค้าก็บอกว่าจะให้คนขับรถขับรถไปให้เอาเอทีเอ็มมากดเงินให้เค้า มีผุ้ชายเป็นคนขับและมีผู้หญิงนั่งประกบเราไปอีก 1 คน แต่โชคดีที่เราให้เค้าจอดตรงตลาดแล้วเราก็วิ่งหนีลงจากรถไปแจ้งตำรวจ ตำรวจบอกว่าบริษัทนี้มีคนมาแจ้งความตั้งหลายรอบแล้ว เราอยากจะเตือนทุคนที่อ่านกระทู้นี้ให้ระวัง เพราะว่าคุณอาจจะไม่มีสิทธิ์ได้ออกมาจากบริษัทนี้ง่าย ๆ ถ้าคุณไม่จ่ายเงินให้เค้า และทุกวันนี้บริษัทนี้ก็ยังเปิดหลอกลวงคนอื่นอยู่ เพราะฉะนั้นช่วยบอกต่อเพื่อนทุกคนที่คิดจะไปสมัครด้วย อาจจะไม่โชคดีเหมือนเรา</span><br /></span><span style="font-family:Courier New;"><em></em></span><br /><span style="font-family:Courier New;"><em></em></span><br /><span style="font-family:Courier New;color:#ff6600;"><em><strong>กรณีศึกษาที่ 2</strong></em></span><br /><em></em><br /><span style="color:#ffff99;"><span style="font-family:Courier New;">เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นกับตัวเอง เมื่อตอนที่เราเรียนจบใหม่ ๆ และกำลังอยากหางานทำ ก็ได้เข้าไปสมัครในอินเตอร์เน็ต เข้าไปสมัครอยู่หลสยเว็บเหมือนกัน สมัครหลายบริษัทด้วย และเราก็ส่ง RESUME ไปหลายที่มาก และในวันเดียวกันประมาณช่วงบ่าย 3 ก็มีบริษัทหนึ่งโทรมานัดเราให้ไปสัมภาษณ์งานในวันพรุ่งนี้ เราดีใจมาก สอบถามสถานที่ นัดเวลาเรียบร้อย พอเช้าเราก็เดินทางไป จำได้ว่าบริษัทนี้ชื่อเวิร์ล อะไรสักอย่างจำไม่ได้ เราก็ไปถึงบริษัท อยู่ในซอยราชวิถีเท่าไหร่จำไม่ได้แล้ว แต่อยู่ข้าง ๆ ซอยอารีย์ และในซอยจะมีตึกใหญ่ ๆ ของกรมสรรพากรอยู่สุดซอยเลย เราขับรถไปกับเพื่อนสองคน พอไปถึงก็เจอบริษัทซึ่งเป็นตึกแถวห้องเดียว และมีคนอยู่ในนั้นเยอะมาก ดูวุ่นวายด้วย เพื่อนเราที่ชวนมาสมัครด้วยมันเห็นแล้วสภาพไม่น่าสนใจมันก็เลยไม่ยอมสมัคร แล้วมันก็ไปนั่งอยุ่ในรถ ส่วนเราก็มีคนเอาใบสมัครมาให้กรอกแล้วก็เข้ามาสัมภาษณ์ ส่วนใหญ่จะคุยเรื่องส่วนตัวเรามากกว่าไม่ค่อยสนใจเรื่องการศึกษาเท่าไหร่ จะถามว่าพ่อแม่ทำงานอะไร ใช้เงินเดือนละเท่าไหร่ และวันนี้มีเงินมาเท่าไหร่ เราก็ซื่อบอกเค้าว่ามีมา 2 พันกว่าบาท และถามว่ามีบัตรอะไรบ้าง เราก็บอกมีบัตรเอทีเอม 2 ใบ แล้วถามต่อว่าในบัตรมีเงินเท่าไหร่ เราก็เริ่มรู้สึกว่าเค้มาวุ่นวายกับเรามากไปแล้วนะ เราก็เลยไม่กล้าบอกเค้า แล้วยังจะขอดูกระเป๋าสะพายของเราด้วยว่าเอาอะไรมาบ้าง เหมือนว่าจะพยายามรื้อดูซะทุกอย่าง เราก็บอกว่าไม่มีอะไรมาหรอกมีแต่เครื่องสำอาง แล้วเค้าก็เดินออกไป บอกให้เรารอก่อนเดี๋ยวจะเรียกผุ้จัดการมาสัมภาษณ์ เราก็คิดในใจว่านี่ยังไม่เสร็จอีกหรอชั่วโมงกว่าแล้วนะเนี่ย สักพักก็มีผู้ชายคนหนึ่งเดินเข้ามาท่าทางเกย์ ๆ หน่อย ใส่สร้อยทองน่าจะประมาณ 10 บาทเส้นใหญ่มาก ๆ ใส่แหวนเพชรเกือบทุกนิ้วและเพชรเม็ดใหญ่แบบโอเว่อร์ เค้าก็เข้ามาคุยกับเราว่าอยากทำงานที่นี่ไหม เราก็ถามว่าให้ทำใตแหน่งอะไรหรอ เค้าบอกว่าเราน่าตาน่ารัก พูดเพราะ จะให้เป็นประชาสัมพันธ์ แต่ไม่ได้ให้อยู่ที่นี่นะ ให้ไปอยู่ประจำที่โรงเรียนสอนภาษาแห่งหนึ่ง เราก็หรอ แต่ในใจเริ่มรู้สึกไม่ค่อยดีละ เราก็ยังทำเป็นถามอีกนะว่าแล้วต้องทำไงบ้าง เค้าบอกว่าต้องเสียค่าสมัครนะนละ 17,000 บาท เราก็งงว่าทำไมต้องเสียนะเรามาของานเค้าทำนะ เค้าก็บอกว่าไม่เสียฟรีนะท่สมัครเนี่ยสามารถเอาไปเลือกลงเรียนแต่ละคอร์สที่เค้าเปิดสอนได้นะ เราก็งงอีกว่าตกลงบริษัทนี้มันทำอะไรกันแน่ สรุปก็คือเป็นโรงเรียนที่เปิดสอนเยอะมากทั้งคอมพิวเตอร์ ทำอาหาร ภาษา ... แต่เราก็ไม่รู้จักชื่อโรงเรียนนี้เลย ใครจะกล้าสมัครเรียนและได้วุฒิอะไรรึเปล่าก็ไม่รู้ เราก็เริ่มตัดบทแล้วว่าจะกลับไปบ้านไปคุยกับแม่ก่อนนะ และวันนี้เราก็สมัครไม่ได้ด้วยเพราะเราไม่มีเงิน แล้วเค้าก็บอกว่าวันนี้มีมาเท่าไหร่ก็เอามาสมัครไว้ก่อน มัดจำไว้นะ แต่พอดีคนที่สัมภาษณ์คนแรกมันรู้แล้วว่าเรามีเงินมา 2,000 ให้เอาตรงนี้มาจ่ายก่อน เราเลยโกหกไปว่าจะต้องเอาไปจ่ายค่าโทรศัพท์ตั้ง 2,000 ไม่งั้นพรุ่งนี้โดนตัดแน่ ๆ เค้าก็บอกว่าพันหนึ่งก็ได้ เราก็ไม่ยอม 500 ก็ได้ เราก็ไม่ยอมอีก จนสุดท้ายเค้าก็ถามว่าน้องไม่อยากได้งานทำหรอ เราก็บอกว่าอยากนะแต่ถ้าได้งานแล้วเราเดือดร้อน เพราะดทรศัพท์ต้องโดนตัดเราไม่ทำดีกว่า เค้าก็เลยบอกว่างั้นถอดสร้อยข้อมือออกมาเดี๋ยวจะเอาไปตึ๊งให้ เราก็... ต้องทำขนาดนี้เลยหรอ สุดท้ายวันนี้มันต้องเอาอะไรจากเราให้ได้สักอย่าง เราก็ไม่ยอมอยู่ดี ตอนนี้มีคนมารุมสัมภาษณ์เรา 4 คนแล้วเราก็ไม่ยอม ใจเราคิดแต่ว่าจะยุติเรื่องวันนี้ยังไงดีเพื่อที่จะได้ออกไปแล้วไม่เป็นอันตรายกับเราด้วย พอดีเพื่อนเราโทรเข้ามาเราก็รีบรับโทรศัพท์ทันทีแล้วบอกว่าจะออกไปเดี๋ยวนี้แหละ เราก็ลุกขึ้นจะกลับแล้วเพราะมีธุระ เค้าก็ถามว่าตกลงน้องจะทำงานไหม ถ้าทำก็จ่ายเงินมา เราก็พูดให้ความหวังมันไปว่า พี่เรื่องเงินนะเรื่องเล็กถ้าหนูจะทำนะ พรุ่งนี้ขอเงินแม่มาสมัครได้เลย เค้าก็เริ่มยิ้มกันได้ เดินลงมาส่งเราถึงรถเลยละ พอออกมาได้เราก็แทบอยากจะกรี๊ด นี่หรอการสัมภาษณ์งานครั้งแรกในชีวิตของเรา รู้สึกแย่มาก เสียความรู้สึกอย่างแรงด้วย ดีนะที่เราไม่ได้เสียอะไรไป ขอให้คนพวกนี้หมดไปจากสังคมซะทีเถอะ ...</span><br /><br /></span><br /><span style="font-family:courier new;font-size:130%;color:#3333ff;"><strong></strong></span><br /><span style="font-family:courier new;font-size:130%;color:#3333ff;"><strong>การป้องกันภัยการสมัครงาน</strong></span><br /><br /><span style="font-family:courier new;font-size:130%;">สมัยนี้หางานทำได้ยากเหลือเกินไม่เหมือนเมื่อก่อน เมื่อมีข่าวเปิดรับสมัครงานเมื่อไร โดยเฉพาะงานราชการก็มักจะมีคนแห่ไปสมัครนับพันนับหมื่นคน บางรายก็ได้งาน บางรายที่ผิดหวังก็ต้องหาสมัครงานใหม่ต่อไป แต่ยังดีที่มีช่องทางหางานได้มากขึ้น เช่น หางานตามหนังสือสมัครงาน Internet ตามแคมปัสของมหาวิทยาลัยที่จัดให้นักศึกษากรอกประวัติส่วนตัวทิ้งไว้ให้นายจ้างมาคัดเลือก ฯลฯ นอกจากนี้ ยังมีหน่วยงานของรัฐที่เปิดให้มีการจัดหางานให้ฟรีโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย มีเครือข่ายอยู่ในทุกจังหวัดทั่วประเทศไทย และยังมีจัดหางานเอกชนที่สามารถเปิดให้บริการจัดหางานให้กับคนหางานทำในประเทศ แต่ต้องขออนุญาตกับกรรมการจัดหางานก่อน</span><br /><br /><span style="font-family:courier new;font-size:130%;">หากสงสัยว่าจัดหางานเอกชนดังกล่าวเปิดบริษัทโดยไม่ได้รับอนุญาตสามารถแจ้งเบาะแสข้อมูลได้ที่ศูนย์ประสานการปราบปรามผู้เป็นภัยต่อคนหางาน โทร. 0-2245-6763 หรือสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานจัดหางาน</span><br /><br /><br /><span style="font-family:courier new;font-size:130%;color:#3333ff;"><strong>การเตรียมตัวหางาน</strong></span><br /><br /><span style="font-family:courier new;font-size:130%;">ควรจะต้องเริ่มต้นกันก่อนที่จะจบกรศึกษา คือควรจะแวะไปดูตู้หรือป้ายประกาศของสถานศึกษาที่เรียนอยู่ว่ามีบริษัท ห้างร้านใดต้องการรับสมัครพนักงานบ้าง เพราะบริษัทห้างร้านต่าง ๆ มักจะชอบส่งหนังสือแสดงความจำนงว่า จะรับสมัครพนักงานในตำแหน่งอะไรบ้างไปตามมหาวิทยาลัยเสมอ เพราะเป็นการประหยัดค่าโฆษณาหาคนในหนังสือพิมพ์ บางแห่งก็อยากได้คนจบใหม่ ๆ เลย นอกจากนี้ควรจะสอบถามไปยังเพื่อนรุ่นพี่หรือคนรู้จักกันว่า มีท่ไหนกำลังเปิดรับสมัคร แต่ทั้งน้ทั้งนั้นก็ไม่ควรจะต้องสนอกสนใจถึงกับไม่มีเวลาดูหนังสือสอบ</span><br /><br /><span style="font-family:courier new;font-size:130%;">นอกจากจะมองหาแหล่งสำหรับสมัครงานแล้ว ในระหว่างนั้นก็น่าจะเตรียมตัวให้พร้อ เช่น เลือกเสื้อผ้าที่คิดว่าดีและเหมาะสมที่สุด ควรจะมีสัก 2 ชุด เพื่อใส่ไปสมัครงานหรือรับการสัมภาษณ์ เตรียมรูปถ่าย จัดเตรียมเอกสารท่จำเป็นต้องใช้ โดยเตรียมไว้เป็นชุด ๆ อย่างน้อยก็ควรจะเตรียมไว้ไม่น้อยกว่า 3-4 ชุด เตรียมกระดาษจดหมาย ซองจดหายและซองใส่เอกสาร ขณะเดียวกันควรกำหนดไว้ว่า จะไปพบใครหรือโททรศัพท์สอบถามเรื่องการสมัครงานจากใครที่ไหน พูดกันง่าย ๆ คือเตรียมใจ เตรียมกาย และเตรียมสิ่งต่าง ๆ ที่จำเป็นไว้ให้พร้อม เพราะคุณกำลังจะออกไปต่อสู้กับคนอื่น ๆ ซึ่งทุกคนก๋กำลังมองหางานเช่นเดียวกัน</span><br /><span style="font-family:courier new;font-size:130%;"></span><br /><br /><span style="font-family:courier new;font-size:130%;color:#3333ff;"><strong>การหาแหล่งงาน</strong></span><br /><br /><span style="font-family:courier new;font-size:130%;">การหาข้อมูลตำแหน่งงาน สถานที่สมัครบุคคลเข้าทำงาน ผู้สมัครสามารถหาข้อมูลได้จากแหล่งต่าง ๆ ดังต่อไปนี้</span><br /><ol><li><span style="font-family:courier new;font-size:130%;">หนังสือพิมพ์ หนังสือพิมพ์รายวัน ซึ่งมีผู้อ่านจำนวมาก จะมีประกาศรับสมัครงาน ทั้งฉบับภาษาไทยและภาษาอังกฤษ</span></li><br /><li><span style="font-family:courier new;font-size:130%;">สำนักงาน กพ. สำหรับผุ้ต้องการทราบข่าวการสอบเพื่อบรรจุเข้ารับราชการในหน่วยงานต่าง ๆ ของภาครัฐและรัฐวิสาหกิจ</span></li><br /><li><span style="font-family:courier new;font-size:130%;">หน่วยบริการจัดหางานของมหาวิทยาลัย หน่วยบริการจัดหางาน กองกิจการนักศึกษา เป็นแหล่งข้อมุลการรับสมัครงานทั้งภาคราชการ รัฐวิสาหกิจ และภาคเอกชน</span></li><br /><li><span style="font-family:courier new;font-size:130%;">กรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม บริษัทเอกชนหลายแห่งนิยมแจ้งข่าวการรับสมัครงานไปยังกรมการจัดหางาน ผู้สมัครควรไปซื้อไว้ที่สำนักงานเขตใกล้บ้าน เผื่อการเรียกตัวเข้าทำงาน</span></li><br /><li><span style="font-family:courier new;font-size:130%;">ญาติพี่น้อง อาจารย์ บัณฑิตรุ่นพี่ หรือคนรู้จัก โดยเฉพาะผู้ที่ปัจจุบันทำอยู่กับบริษัทก็อาจให้คำแนะนำได้</span></li><br /><li><span style="font-family:courier new;font-size:130%;">สมัครโดยตรงกับบริษัท ปัจจุบันหลายบริษัทเปิดรับสมัครงานตลอดปี ผ้สมัครสอบถามรายละเอียดได้</span><br /></li></ol><p><span style="font-family:courier new;font-size:130%;color:#3333ff;"><strong>เทคนิคการสมัครงาน</strong></span><br /></p><ul><li><span style="font-family:courier new;font-size:130%;">แหล่งข้อมูลในการสมัครงาน</span></li></ul><p><span style="font-family:Courier New;font-size:130%;">- ศูนย์จัดหางาน (E-job center) ของกรมการจัดหางาน ซึ่งตั้งอยู่ในบริเวณกระทรวงแรงงาน</span></p><p><span style="font-family:Courier New;font-size:130%;">- สำนักงานจัดหางานกรุงเทพ เขตพื้นที่ 1-10 หรือสำนักงานจัดหางานจังหวัดทุกจังหวัด</span></p><p><span style="font-family:Courier New;font-size:130%;">- หนังสือสมัครงาน</span></p><p><span style="font-family:Courier New;font-size:130%;">- โฆษณาตามหนังสือพิมพ์/ วิทยุ/ โทรทัศน์</span></p><p><span style="font-family:Courier New;font-size:130%;">- ป้ายรับสมัครงานของสถานประกอบการ</span></p><p><span style="font-family:Courier New;font-size:130%;">- ทาง Internet </span></p><p><span style="font-family:Courier New;font-size:130%;">- สอบถามจากคนใกล้ชิด เช่น ญาติ เพื่อน คนรู้จัก </span></p><ul><br /><li><span style="font-family:courier new;font-size:130%;">การสมัครงาน</span></li></ul><p><span style="font-family:Courier New;font-size:130%;"><em>ส่วนประกอบของประวัติย่อ</em></span></p><p><span style="font-family:Courier New;font-size:130%;">- ที่อยู่ปัจจุบัน ควรระบุให้ชัดเจนเพื่อให้บริษัทสามารถติดต่อเราได้โดยตรง</span></p><p><span style="font-family:Courier New;font-size:130%;">- ข้อมูลส่วนตัว ได้แก่ ชื่อสกุล วันเดือนปีเกิด น้ำหนัก ฯลฯ</span></p><p><span style="font-family:Courier New;font-size:130%;">- ประสบการณ์ในการทำงาน เอาเฉพาะที่สำคัญ หรือที่เกี่ยวข้องกับที่สมัครงาน</span></p><p><span style="font-family:Courier New;font-size:130%;">- การศึกษา เรียงตามวุฒิการศึกษาต่ำสุดไปสูงสุด อย่างน้อยควรเขียน 2 ระดับ</span></p><p><span style="font-family:Courier New;font-size:130%;">- ความสามารถพิเศษ เขียนเฉพาะที่มีประโยชน์ต่อการสมัครงาน เช่น สามารถพิมพ์ดีดได้ดี</span></p><p><span style="font-family:Courier New;font-size:130%;">- การฝึกอบรมสัมมนา เขียนรายละเอียดให้ชัดเจน ที่ไหน เรื่องอะไร ฯ</span></p><ul><br /><li><span style="font-family:courier new;font-size:130%;">การสัมภาษณ์งาน</span></li></ul><ol><li><span style="font-family:Courier New;font-size:130%;">ต้องเตรียมตัวให้พร้อมทั้งด้านร่างกายและจิตใจ</span></li><li><span style="font-family:Courier New;font-size:130%;">แต่งกายสุภาพ</span></li><li><span style="font-family:Courier New;font-size:130%;">ตรงต่อเวลานัดหมาย (ควรถึงก่อน 10 -15 นาที)</span></li><li><span style="font-family:Courier New;font-size:130%;">เตรียมข้อมูลให้พร้อม</span></li></ol><p><span style="font-family:Courier New;font-size:130%;color:#3333ff;"><strong>ข้อควรปฏิบัติขณะรับการสัมภาษณ์</strong></span></p><p><span style="font-family:Courier New;font-size:130%;">- นั่งรออย่างเรียบร้อย ไม่เดินไปเดินมา ไม่ส่งเสียงดัง</span></p><p><span style="font-family:Courier New;font-size:130%;">- ควรยิ้มให้ผู้สัมภาษณ์ขณะเริ่มทักทาย</span></p><p><span style="font-family:Courier New;font-size:130%;">- พูดจาสุภาพ ชัดเจนเป็นธรรมชาติ มีความมั่นใจในตนเอง</span></p><p><span style="font-family:Courier New;font-size:130%;">- ตั้งใจฟังคำถามและตอบคำถามให้ตรงประเด็น จำข้อมูลให้แม่น</span></p><p><span style="font-family:Courier New;font-size:130%;">- เมื่อถูกตั้งคำถามที่อาจมีลักษณะยั่วยุ ต้องควบคุมอารมณ์ให้ดี อย่าแสดงอารมณ์โกรธให้ปรากฏ</span></p><p><span style="font-family:Courier New;font-size:130%;">- ถ้าผู้สัมภาษณ์เปิดโอกาสให้ถาม ควรถามเกี่ยวกับลักษณะงาน</span></p><p><span style="font-family:Courier New;font-size:130%;">- ขณะสัมภาษณ์ควรมองหน้าผู้สัมภาษณ์</span></p><p><span style="font-family:Courier New;font-size:130%;">- ไม่ควรนั่งไขว่ห้าง</span></p><p><span style="font-family:Courier New;font-size:130%;">- ไม่ควรนัดสัมภาษณ์วันละหลาย ๆ แห่ง</span></p><p><span style="font-family:Courier New;font-size:130%;">- ไม่ควรนำพ่อแม่ หรือเพื่อนไปสัมภาษณ์ด้วย</span></p><p><span style="font-family:Courier New;font-size:130%;">- ไม่แสดงอาการประหม่า มือเท้าสั่น</span></p><p><span style="font-family:Courier New;font-size:130%;">- ไม่ควรแย่งพูดขณะตั้งคำถาม และไม่พูดในสิ่งที่ไม่เป็นจริง</span></p><p><span style="font-family:Courier New;font-size:130%;color:#3333ff;"><strong>คำถามที่อาจจะถูกถามในการสัมภาษณ์งาน</strong></span></p><p><span style="font-family:Courier New;font-size:130%;">- คำถามเกี่ยวกับชีวิต ครอบครัว เช่น ให้เราเล่าประวัติแบบย่อ</span></p><p><span style="font-family:Courier New;font-size:130%;">- คำถามเกี่ยวกับการเรียนและกิจกรรม เช่น คุณเคยทำกิจกรรมอะไรมาบ้าง</span></p><p><span style="font-family:Courier New;font-size:130%;">- เคยทำงานอะไรมาแล้ว และทำไมจึงอยากมาทำที่นี่ (ควรตอบในเชิงบวก)</span></p><p><span style="font-family:Courier New;font-size:130%;">- ทำไมจึงออกจากที่ทำงานที่เคยทำอยู่ (ควรตอบในเชิงบวก)</span></p><p><span style="font-family:Courier New;font-size:130%;color:#3333ff;"><strong>หลักเกณฑ์ในการเลือกที่ทำงาน</strong></span></p><p><span style="font-family:Courier New;font-size:130%;">เมื่อได้รายชื่อบริษัทธุรกิจที่ผู้สมัครสนใจจะไปสมัครเข้าทำงานจากแหล่งต่าง ๆ เรียบร้อยแล้ว ถ้าหากไม่รีบร้อนเกินไปก็น่าจะมีการศึกษาหารายละเอียดเกี่ยวกับบริษัทเหล่านั้นบ้างเล็กน้อย อย่างน้อยก็เพื่อป้องกันความผิดหวังการหารายละเอียดนี้ก็เพื่อดูความั่นคงของกิจการ และดว่าดวงของผู้สมัครจะสงพงษ์กับบริษัทนั้น ๆ เพียงไร มีวิธีดูหลายประการดังต่อไปนี้</span></p><ol><li><span style="font-family:Courier New;font-size:130%;">ทุนดำเนินการและกิจการทั่วไป แน่นอนที่สุดที่ผู้สมัครคงไม่สามารถทราบฐานะทางการเงินของบริษัทธุรกิจได้ ยกเว้นธนาคารบางแห่งที่มีการเผยแพร่ผลกำไรขาดทุนและแสดงฐานะของกิจการในรายงานประจำปี แต่อย่างน้อยก็เชื่อว่าผู้สมัครพอจะมีทางทราบฐานะของบริษัทจากกิจการทั่วไป เช่น ทางด้านการตลาด การผลิต และการให้บริการจและสวัสดิการแก่พนักงาน เป็นต้น บริษัทหลายแห่งทีมั่นคงจะมีตึกสำนักงานของตนเอง และมีการให้บริการแก่สังคมสูง เป็นที่ยอมรับของคนทั่วไป</span></li><li><span style="font-family:Courier New;font-size:130%;">ที่ตั้ง วิธีการนี้ก็เพื่อความสะดวกของผู้สมัครในการเดินทางไปและกลับจากที่ทำงาน เพราะถ้าบริษัทอยู่ห่างไกลจากที่อยู่อาศัยมากก็จะลำบากมาก ยิ่งถ้าไปทำงานสายบ่อย ๆ ก็อาจจะถูกผู้บังคับบัญชาตำหนิได้ และค่าใช้จ่ายในการเดินทางอาจสูงกว่าที่ทำงานใกล้บ้านก็ได้ อีกทั้งประหยัดเวลาในการเดินทางได้อีกด้วย</span></li><li><span style="font-family:Courier New;font-size:130%;">รายได้ หมายถึงเงินเดือนรวมกับเบี้ยเลี้ยง เงินล่วงหน้า (ถ้ามี) โบนัสประจำปี และสวัสดิการต่าง ๆ ที่บริษัทให้ บางบริษัทอาจให้เงินเดือนสูงแต่ทำงานมากชั่วโมงกว่า หรือบางบิษัทเงินเดือนต่ำกว่าก็จริง แต่ออกเงินค่าภาแถมมีโบนัสให้ด้วย เรื่องรายได้นี้นับว่าผุ้สมัครจะต้องพิจารณาให้ดี อาจจะสอบถามคนที่ทำงานอยู่แล้ว หรือไม่กสอบถามจากกรรมการเมื่อสอบสัมภาษณ์ก็ได้</span></li><li><span style="font-family:Courier New;font-size:130%;">บรรยากาศการทำงาน ผู้สมัครควรสืบทราบเรื่องบรรยากาศในการทำงานของบริษัทธุรกิจนั้น ๆ ว่ามีการทำงานกันอย่างมีความสุข เป็นระเบียบเรียบร้อย มีวินัยอันดีพอสมควรหรือไม่ หรือมีการต่อสู้แย่งชิงตำแหน่ง และปัดแข้งปัดขากัน มีการแบ่งพรรคแบ่งพวกกันอย่างไร เพื่อจะได้ประกอบการตัดสินใจให้ถูกต้อง และเพื่อความสบายใจในการทำงาด้วย บางบริษัทแม้จะเล็กแต่ก็อบอุ่น มีการอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขเหมือนพี่กับน้อง มีการสอนพนักงานใหม่ให้คุ้นกับบบริทและเพื่อนร่วมงานอย่างรวดเร็ว ทำให้สบายใจกว่าอยู่บริษัทใหญ่ ๆ แต่มีการจ้องจับผิดหรือป้ายความผิดกันตลอดเวลา</span></li><li><span style="font-family:Courier New;font-size:130%;">สภาพการทำงาน เรื่องสภาพการทำงานก็เป็นเรื่องที่น่าพิจารณาไม่น้อย เพระจะเป็นประโยชน์สำคัญในการทำงานอย่างมีความสุขและมีประสิทธิภาพหรือไม่เพียงใดในอนาคต บางบริษัทที่ก้าวหน้านสมัยจะมีอุปกรณือำนวยความสะดวกในการทำงานในแทบทุกอย่าง นับตั้งแต่ มีที่จอดรถของพนักงาน ลิฟต์ เครื่องปรับอากาศ โต๊ะ และม้านั่ง เครื่องใช้สำนักงาน เครื่องเขียนและอุปกรณ์ เป็นต้น และเป็นการแน่นอนที่สุดว่าในบริษัทที่มีสภาพการทำงานที่ดีกว่า ผลงานของพนักงานก๋ย่อมจะดีกว่า และขวัญกำลังใจของพนักงานก็ย่อมจะสูงกว่าอย่างไม่น่าสงสัย</span></li><li><span style="font-family:Courier New;font-size:130%;">โอกาสก้าวหน้า ข้อนี้เป็นสิ่งท่ควรแกรพิจารณาอย่างยิ่ง แต่ส่วนมากผู้สมัครงานมักไม่สนใจเท่ารายได้ที่จะได้รับ ผู้สมัครควรจะดูว่าบริษัทธุรกิจนั้น ๆ ให้โอกาสแก่พนักงานในการพัฒนาความรู้ความสามารถอย่างไรบ้าง เพื่อจะได้มีความก้าวหน้าในตำแหน่งอาชีพและเงินเดือน บางบริษัทจะสนับสนุนพนักงานอย่างเต็มที่ในการเข้ารับการฝึกอบรมสัมมนาดูงานและฝึกงานทั้งในและนอกประเทศ บางบริษัทยินดีให้พนักงานร่วมกิจกรมของสังคมที่เป็นประโยชน์ เป็นต้น เหล่านี้ล้วนแต่เป็นการเปิดโอกาสให้พนักงานมีโอกาสพัฒนาตนเองทั้งสิ้น</span></li><li><span style="font-family:Courier New;font-size:130%;">วัตถุประสงค์คล้ายคลึงกัน หมายความว่า ปรัชญาในการดำเนินธุรกิจของบริษัทควรจะสอดคล้องกับปรัชญาในการประกอบอาชีพผู้สมัครด้วย ทั้งนี้เพื่อจะทำงานร่วมกันได้อย่างมีความสุข</span></li><li><span style="font-family:Courier New;font-size:130%;">ลักษณะงาน คนบางคนสามารถทำงานได้ทุกอย่าง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะทำได้ดีหมดทุกอย่าง มนุษย์เรามีความถนัดในบางเรื่อง และความถนัดนี้ก็น่าจะได้มีโอกาสนำมใช้งานให้เหมาะสมและถูกต้อง ดังเช่นภาษิตของงานบริหารงานบุคคลที่ว่า " จงบรรจุคนที่เหมาะสมที่สุดในงานที่เหมาะสมที่สุด" หรือ PUT THE RIGHT MAN INTO THE RIGHTJOB ดังนั้น ลักษณะงานจึงจำเป็นต้องจะทำให้เกิดความพอใจในงานด้วย เพื่อจะได้ทำงานด้วยความรักและเพื่อความมีประสิทธิภาพขององค์กร</span></li></ol><p><span style="font-family:Courier New;font-size:130%;"></span></p><p><span style="font-family:Courier New;font-size:130%;color:#3333ff;"><strong>ขั้นตอน-กระบวนการในการสมัครงาน</strong></span></p><p><span style="font-family:Courier New;font-size:130%;">หลังจากที่ทราบถึงแหล่งงาน สามารถจำแนกทักษะความชำนาญความพอใจของตนเอง รวมทั้งงานที่เหมาะสมกับความรู้ความสามารถของตนเอง และก็ถึงเวลาออกไปสมัครงาน ซึ่งปกติกรสมัครงานจะมีขั้นตอน-กระบวนการ ดังนี้</span></p><ol><li><span style="font-family:Courier New;font-size:130%;">การเตรียมตัวก่อนการสมัคร</span></li><li><span style="font-family:Courier New;font-size:130%;">การกรอกใบสมัคร</span></li><li><span style="font-family:Courier New;font-size:130%;">การเขียประวัติย่อ (RESUME)</span></li><li><span style="font-family:Courier New;font-size:130%;">การเขียนจดหมายสมัครงาน</span></li><li><span style="font-family:Courier New;font-size:130%;">การสอบข้อเขียนหรือการทดสอบความสามารถ</span></li><li><span style="font-family:Courier New;font-size:130%;">การสัมภาษณ์</span></li><li><span style="font-family:Courier New;font-size:130%;">การติดตามผล</span></li></ol><p><span style="font-family:Courier New;font-size:130%;"></span></p><p><span style="font-family:Courier New;font-size:130%;color:#cc33cc;"><em><strong>** โปรดจำไว้เสมอว่าจดหมายแนะนำต้องส่งควบคู่กับ RESUME ทุกครั้ง **</strong></em></span></p><p><span style="font-family:Courier New;font-size:130%;"></span></p><p><span style="font-family:Courier New;font-size:130%;"></span></p><p><br /></p><ol><br /></ol><br /><br /><br /><p><span style="font-family:courier new;font-size:130%;"></span></p><br /><br /><br /><p><span style="font-family:courier new;font-size:130%;"></span></p><br /><span style="font-family:courier new;font-size:130%;"></span><br /><br /><span style="font-family:courier new;font-size:130%;"></span><br /><br /><span style="font-family:courier new;font-size:130%;"></span><br /><br /><br /><br /><span style="font-family:courier new;font-size:130%;"></span>★♀★ t o o k t i k ★♀★http://www.blogger.com/profile/14571821218239697177noreply@blogger.com1tag:blogger.com,1999:blog-6274288431694945927.post-47832091155295031342008-08-24T02:49:00.000-07:002008-08-25T03:08:23.363-07:00เทคโนโลยีการบริหารจัดการงานโรงแรมยุคใหม่<span style="font-size:130%;"><span style="color:#3333ff;">คอมพิวเตอร์ในอุตสาหกรรมโรงแรมและท่องเที่ยว</span><br /><br />ท่องเที่ยว : โรงแรม, ร้านอาหาร, โรงพยาบาล, ร้านขายของที่ระลึก ฯลฯ<br /><br />ระบบคอม :<br /><br /></span><ol><li><span style="font-size:130%;">Hardware : สิ่งที่จับต้องได้ (เปลี่ยน ประกอบ)</span></li><li><span style="font-size:130%;">Software : โปรแกรมหรือชุดคำสั่งระหว่าง User กับ Hardware</span></li><li><span style="font-size:130%;">Peopleware : บุคลากร</span></li><li><span style="font-size:130%;">Data : ข้อมูล มี 2 ชนิด (1) Data ข้อมูลดิบ (2) Information ข้อมูลที่ผ่านกระบวนการแล้ว</span></li><li><span style="font-size:130%;">Process : กระบวนการทำงาน<br /></span></li></ol><p><span style="font-size:130%;"><strong><span style="color:#3333ff;">Intro</span> </strong><br /></span></p><p><span style="font-size:130%;">Hospitality (อุตสาหกรรมที่ให้บริการด้วยความเต็มใจ)</span></p><ul><li><span style="font-size:130%;">Hotel - โรงแรม</span></li><br /><li><span style="font-size:130%;">Tourism - ท่องเที่ยว</span></li><br /><li><span style="font-size:130%;">Etc. - อื่น ๆ เช่น ร้านอาหาร ธนาคาร ปั๊มน้ำมัน บริษัทรถเช่า โรงพยาบาล</span><br /></li></ul><p><span style="font-size:130%;"></span></p><p><span style="font-size:130%;"><strong><span style="color:#3333ff;">Introduction</span> </strong><br /></span></p><p><span style="font-size:130%;">Hotel background :</span></p><p><span style="font-size:130%;">- Product (สิ่งที่โรงแรมขาย)</span></p><ul><li><span style="font-size:130%;">Room Inventory : ห้องที่มีอยู่ในโรงแรมทั้งหมด</span></li><br /><li><span style="font-size:130%;">Food and Beverage : อาหาร เครื่องดื่ม</span></li><br /><li><span style="font-size:130%;">Event/ Conference/ Catering/ Banquet : งาน-เหตุการณ์ต่าง ๆ/ การจัดเลี้ยงด้านนอก/ ประชุมนานาชาติ</span></li><br /><li><span style="font-size:130%;">Leisure Activities : กิจกรรมยามว่าง<br /></span></li></ul><p><span style="font-size:130%;"><span style="color:#3333ff;"><strong>Process (กระบวนการ)</strong></span><br /></span></p><ul><li><span style="font-size:130%;">Reservation/ Walk-in : การวางแผนท่จะไปพัก โทรไปจองห้องให้ทางโรงแรมหาห้องไว้ให้/ การเดินเข้าไปพัก</span></li><br /><li><span style="font-size:130%;">In-house guest : แขกที่เข้าพักอยู่ มีการกรอกประวัติ (ข้อมูล)</span></li><br /><li><span style="font-size:130%;">Billing : การจับจ่ายใช้สอยสินค้า, บริการ (ค่าห้อง, ภาษี, อื่น ๆ)</span></li><br /><li><span style="font-size:130%;">Check out : ออก<br /></span></li></ul><p><span style="font-size:130%;"><strong><span style="color:#3333ff;">Reservation (กระบวนการจอง)</span><br /></strong></span></p><ul><li><span style="font-size:130%;">Individual reservation : จองเป็นรายบุคคล จำนวนไม่มาก ข้อมูลที่กรอกมี ชื่อ-สกุล หมายเลขบัตร วันเดือนปี เข้าออก ฯลฯ</span></li><br /><li><span style="font-size:130%;">Group reservation : จองเป็นคณะจำนวน 15 คนขึ้นไป (15+1 = เข้าพัก 15 คนฟรี 1 ห้อง สำหรับไกด์)<br /></span></li></ul><p><span style="font-size:130%;"><span style="color:#3333ff;"><strong>In-house guest</strong></span><br /></span></p><ul><li><span style="font-size:130%;">Posting : กระบวนการบันทึกข้อมูล</span></li><br /><li><span style="font-size:130%;">Billing : แบบฟอร์ม Guest forio (ใบเสร็จ) จะมีอยู่จนกระทั่ง Check Out</span></li><br /><li><span style="font-size:130%;">Update room status : สถานะห้อง (มาตรฐาน)</span></li></ul><ol><li><span style="font-size:130%;">Vacant ว่าง, ห้องว่าง</span></li><li><span style="font-size:130%;">Occupied ห้องไม่ว่าง</span></li><li><span style="font-size:130%;">Out Of Order ห้องชำรุด (อุปกรณ์ภายในห้องเสียหาย)</span></li><li><span style="font-size:130%;">Out Of Service งดให้บริการ (ห้องดีแต่ใช้ไม่ได้ มีผลในการลดค่าใช้จ่าย ช่วยลดพลังาน) </li></ol></span><p><span style="font-size:130%;"><strong><span style="color:#3333ff;">Billing</span> </strong><br /></p></span><ul><li><span style="font-size:130%;">Master Bill : บิลหลัก (ห้องพัก Service Chart ที่เบิกได้สำหรับราชการ) มีค่าอาหาร Minibar ฯลฯ </span></li><br /><li><span style="font-size:130%;">Extra Bill : บิลแยกจาก Master Bill</span></li><br /><li><span style="font-size:130%;">Voucher/ City ledger : เอกสารแทนเงินสด/ใบเรียกเก็บเงิน (ลูกหนี้)<br /></span></li></ul><p><span style="font-size:130%;"><strong><span style="color:#3333ff;">Computer in Hospitality</span><br /></strong></span></p><ul><li><span style="font-size:130%;">PMS (Property Management System)</span></li></ul><p><span style="font-size:130%;">- เป็นระบบสำหรับในโรงแรม คือการนำระบบคอมพิวเตอร์ (ฮาร์ดแวร์, ซอฟต์แวร์, พีเพิลแวร์, ข้อมูล, กระบวนการ) มาใช้ให้เกิดประโยชน์</span></p><p><span style="font-size:130%;"></span></p><ul><li><span style="font-size:130%;">GDS (Global Distribution System)</span></li></ul><p><span style="font-size:130%;">- ระบบจองตั๋วบินขนาดใหญ่</span></p><p><span style="font-size:130%;"></span></p><ul><li><span style="font-size:130%;">CRS (Central Reservation System)</span></li></ul><p><span style="font-size:130%;">- ระบบการจองผ่านศูนย์กลาง (Website)</span></p><p><span style="font-size:130%;"></span></p><ul><li><span style="font-size:130%;">EPOS (Electronic Point of Sale)</span></li></ul><p><span style="font-size:130%;">- ระบบเช็คบาร์โค้ด</span></p><p><span style="font-size:130%;"></span></p><ul><li><span style="font-size:130%;">Call Accounting</span></li></ul><p><span style="font-size:130%;">- รายการใช้โทรศัพท์</span></p><p></p><ul><li><span style="font-size:130%;">Electronic Door Locking</span></li></ul><p><span style="font-size:130%;">- ระบบคีย์การ์ด ใช้เปิดประตู ช่วยประหยัดพลังงาน, มีความปลอดภัย</span></p><p><span style="font-size:130%;"></span></p><p><span style="font-size:130%;color:#3333ff;"><strong>PMS (Property Management System)</strong></span></p><p><span style="font-size:130%;">ทำงานเป็น Modul (โมดูล) เป็นชุดโปรแกรมย่อย ทำงานเฉพาะด้าน</span></p><ul><li><span style="font-size:130%;">Reservation การจอง</span></li><li><span style="font-size:130%;">Room rate อัตราค่าห้อง</span></li><li><span style="font-size:130%;">Profile </span></li><li><span style="font-size:130%;">Front Desk แผนกต้อนรับส่วนหน้า (เกี่วข้องกับแขก)</span></li><li><span style="font-size:130%;">Back Office Interface ระบบบริหารงานส่วนหลัง</span></li><li><span style="font-size:130%;">Rooms Management ห้องงาน เช่น ห้องของพนักงานบัญช (ไม่เกี่ยวข้องกับแขก)</span></li><li><span style="font-size:130%;">Cashiering การบันทึกค่าใช้จ่าย</span></li><li><span style="font-size:130%;">Account Receivable การจัดการเกี่ยวกับลูกหนี้</span></li><li><span style="font-size:130%;">Commission </span></li><li><span style="font-size:130%;">Reporting</span></li><li><span style="font-size:130%;">Full configurable</span></li><li><span style="font-size:130%;">Global Perspective</span></li><li><span style="font-size:130%;">Hospitality System Interface</span></li></ul><p><span style="font-size:130%;color:#3333ff;"></span></p><p><span style="font-size:130%;color:#3333ff;"><strong>GDS (Global Distribution System)</strong></span></p><ul><li><span style="font-size:130%;">3 systems in Thailand</span></li></ul><ol><li><span style="font-size:130%;">Amedeus การบินไทยใช้เยอะที่สุด</span></li><li><span style="font-size:130%;">Abacus พันธมิตรมาจากยุโรป สิงคโปร์แอร์ไลน์</span></li><li><span style="font-size:130%;">Galileo แอร์เอเซีย</span></li></ol><ul><li><span style="font-size:130%;">Reservation</span></li></ul><ol><li><span style="font-size:130%;">Airline seat ที่นั่งการบิน</span></li><li><span style="font-size:130%;">Booking room การจองห้องพัก</span></li><li><span style="font-size:130%;">Booking car rent การจองรถเช่า</span></li><li><span style="font-size:130%;">Booking train (in Europe) กาจองรถไฟ</span></li><li><span style="font-size:130%;">Booking restaurant</span></li></ol><p><span style="font-size:130%;"></span></p><p><span style="font-size:130%;color:#3333ff;"><strong>Example command</strong></span></p><p><span style="font-size:130%;">Amadeus command</span></p><ul><li><span style="font-size:130%;">An20augcnxlax/atg/cf</span></li><li><span style="font-size:130%;">ss1f1 (Sale Segment line1 จำนวน 1 คน)</span></li><li><span style="font-size:130%;">Nm1bunsiri/thosaphon mr</span></li><li><span style="font-size:130%;">Ap cnx 0815339910</span></li><li><span style="font-size:130%;">Tktl18aug</span></li><li><span style="font-size:130%;">Rf jim</span></li><li><span style="font-size:130%;">er</span></li></ul><p><span style="font-size:130%;color:#3333ff;"></span></p><p><span style="font-size:130%;color:#3333ff;"><strong>Report and Statistic</strong></span></p><ul><li><span style="font-size:130%;">Occupancy Rate</span></li><li><span style="font-size:130%;">Expected Arrival List</span></li><li><span style="font-size:130%;">No show rate</span></li><li><span style="font-size:130%;">Cancellation rate</span></li><li><span style="font-size:130%;">Understay/ Overstay</span></li><li><span style="font-size:130%;">7 days forecast report</span></li></ul><p><span style="font-size:130%;"></span></p><p><span style="font-size:130%;color:#3333ff;">ข้อมูลสารสนเทศ</span></p><p><span style="font-size:130%;">TPS : การประมวลผลทีละรายการ ลักษณะเป็นข้อมูลเดิม ๆ ซ้ำ ๆ </span></p><p><span style="font-size:130%;">MIS : การนำข้อมลมาสรุป/ การดึงข้อมูล</span></p><p><span style="font-size:130%;">DSS : ระบบเพื่อการตัดสินใจทั้งภายใน-นอก องค์กร</span></p><p><span style="font-size:130%;">EIS : ข้อมูลการตัดสินใจของผู้บริหาร</span></p><p><span style="font-size:130%;">ES : ระบบผู้เชี่ยวชาญ</span></p><p><span style="font-size:130%;"></span></p><p><span style="font-size:130%;"></span></p><p><span style="font-size:130%;"></span></p><p><span style="font-size:130%;"><br /></span></p><p><span style="font-size:130%;"></span></p><br /><br /><br /><p><span style="font-size:130%;"></span></p><br /><br /><br /><p><span style="font-size:130%;"></span></p>★♀★ t o o k t i k ★♀★http://www.blogger.com/profile/14571821218239697177noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-6274288431694945927.post-40916846409883244302008-08-12T06:09:00.000-07:002008-08-12T06:21:04.352-07:00ปฏิวัติการสื่อสารไทยด้วยเทคโนโลยี HSPA (High Speed Packet Access)<span style="font-family:arial;"><strong><span style="color:#3333ff;">ความเป็นมาของ HSPA </span></strong></span><br /><br /><span style="font-family:arial;">ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของโครงข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ยุคที่ 3 และเป็นซอฟต์แวร์ที่ได้ทำการยกระดับ (Upgrade) โครงข่ายที่เป็นโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อให้สามารถใช้งานข้อมูลที่แปรผันตามอัตราความเร็วข้อมูลได้ ดังนั้นเราต้องการอุปกรณ์เคลื่อนที่ ซึ่ง HSPA ถือว่าเป็นทางเลือกหนึ่งโดยส่วนแล้วเครื่องโทรศัพท์เคลื่อนที่รุ่นใหม่และเครื่องคอมพิวเตอร์แบบพกพาระดับสูงได้ติดตั้งอุปกรณ์เหล่านี้ไว้เป็นมาตรฐานแล้ว </span><br /><br /><span style="font-family:arial;">HSPA มีความเป็นมาที่ยิ่งใหญ่เนื่องจากกลุ่มของเทคโนโลยีระบบ GSM ซึ่งได้ให้กำเนิดการติดต่อสื่อสารเคลื่อนที่ของประชากรโลกที่อยู่ในโลกที่สาม HSPA เป็นเทคโนโลยีล่าสุดที่สามารถเลือกกรทำงานได้แม้กระทั่งอัตราความเร็วข้อมูลที่มีอัตราความเร็วข้อมูลสูง สำหรับผู้ใช้งานโทรศัพท์เคลื่อนที่ในปัจจุบันนี้สามถใช้งานได้ ซึ่งวิวัฒนาการนี้จะเห็นได้จากตระกูลที่พวกเราคุ้นเคย เช่น เทคโนโลยี GPRS (เป็นเทคโนโลยีแบบแพ็คเก็จตัวแรกที่มีอัตราความเร็วข้อมูล 128 Kbps) เทคโนโลยี EDGE (เป็นเทคโนโลยีที่ได้เพิ่มอัตราความเร็วข้อมูลสูงขึ้นประมาณ 240 Kbps) และจึงเข้าไปสู่เทคโนโลยีโทรศัพท์เคลื่อนที่ยุคที่ 3 ที่กำลังเพิ่มอัตราความเร็วข้อมูลเป็น 384 Kbps</span><br /><br /><span style="font-family:arial;">HSPA เป็นคำทั่ว ๆ ไป เพื่อรวบรวมคำย่อทั้งหมดสำหรับ HSDPA และ HSUPA และ HSPA Evolve (HSPA+) ในปัจจุบันเทคโนโลยีบรอดแบรนด์เคลื่อนที่ (Mobile Broadband Technology) ได้ถูกเผยแพร่ไปอย่างกว้างขวางทั่วโลกด้วยจำนวนอุปกรณ์ที่แสดงมีจำนวนมากมายไม่เพียงแต่จำนวนในเชิงปริมาณ แต่ความหลากหลายของอุปกรณ์ท่แสดงให้เห็น ซึ่งประชาชนมีเส้นทางที่แตกต่างกันในการเข้าถึงข่าวสารข้อมูลที่มีการเคลื่อนที่ </span><br /><br /><span style="font-family:arial;">โครงข่ายทั้งหลายที่ได้ถูกนำมาใช้งานโดยหลักอยูที่สเปกตรัมย่านความถี่ 1900 MHz และ 2100 MHz กับการดำเนินงานเพียงไม่กี่รายที่ได้ใช้ประโยชน์จากสเปกตรัมย่านความถี่ 850 MHz และศักยภาพในการ Refarming และการจัดสรค์สเปกตรัมย่านความถี่ UHF ซึ่งจำนวนของผู้ให้บริการรายอื่น ๆ จะนำสเปกตรัมย่านความถี่นี้ใช้งานเพื่อช่วยให้ครอบคลุมพื้นที่การให้บริการ (Converage Area) เมื่อ HSPA เริ่มเปิดให้บริการ </span><br /><br /><span style="font-family:arial;">HSPA เป็นสิ่งที่เหนือกว่าด้วยการยกระดับซอฟต์แวร์ที่อยู่บน Rel. 99 ของมาตรฐาน UMTS การยกระดับนี้เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพและลดปัจจัยแฝงของการเชื่อมโยง (Link) และได้รับโดย คือ การใช้ประโยชน์ควบคู่ไปกับจำนวนเทคนิคต่าง ๆ คือ</span><br /><ul><li><span style="font-family:arial;">Adaptive Modulation and Coding ซอฟต์แวร์ที่ติดตั้งอยู่ใน NODE B (สถานี Base Station) จะทำการวิเคราะห์ผู้ใช้งานแต่ละคนที่อยู่บนเซลล์ (Cell) ในเรื่องคุณภาพของสัญญาณและกรใช้งานของข้อมูลและความจุของเซลล์ ณ เวลาที่ทำการตรวจสอบที่ใช้รูปแบบการมอดูเลชั่นสัญญาณเพื่อติดต่อกับอุปกรณืแต่ละตัว ดังนั้นคุณภาพของสัญญาณที่ดีและเซลล์รับภาระโหลดน้อย Node B จะกำหนดให้ใช้เทคนิคการมอดูเลชั่นแบบ 16QAM เพื่อเลือกค่าอัตราความเร็วข้อมูลท่มีค่ายอดสูงถึง 3.6 Mbps และลดค่าลงไปสู่การใช้เทคนิคการมอดูเลชั่นแบบ QPSK ที่เกี่ยวเนื่องอัตราความเร็วข้อมูลต่ำ ถ้าเงื่อนไขกลสยเป็นที่ไม่ได้รับความนิยม </span><br /></li><li><span style="font-family:arial;">Fast Packet Scheduling ขึ้นอยู่กับตัวอุปกรณ์ที่อยู่ในเซลล์ได้รายงานความแข็งแรงของสัญญาณ โดย Node B สามารถที่จะตรวจสอบว่าอุปกรณ์ตัวใดส่งข้อมูลไปยังรอบเวลา (Time Frame) ในระยะเวลาอีก 2 ms ดังนั้นจะทำให้การใช้งานมีประสิทธิภาพมากที่สุดจากแบรนด์วิธที่ใช้งานได้ ซึ่ง Node B สามารถที่จะทำการตรวจสอบได้ด้วยเหมือนกันว่า มีจำวนข้อมูลมากเท่าใดที่ส่งไปยังอุปกรณ์แต่ละตัวที่อยู่บนพื้นฐานของการเชื่อมต่อ ระบบ HSPA ใช้ 16 Codes ซึ่งจำนวน 15 Codes ถูกใช้งานกับ HSPA ดังนั้น Node B ทำการตรวจสอบว่ามีจำนวน Codes เท่าใดที่กำหนดไปยังอุปกรณ์แต่ละตัวที่อยู่ภายในเซลล์ที่หนดค่า Time Slot ไว้ 2 ms ซึ่งจะทำการตรวจสอบอัตราความข้อมูลทั้งหมดที่ถูกส่งออกไป Node B สมารถกำหนด Time Slot ทั้งหมดและจำนวนทั้งหมด 15 Codes ไปยังอุปกรณ์ตัวเดียวที่อยู่ในเซลล์และถ้าตัวอุปกรณืรายงานผลว่าสถานภาพของสัญญาณดีก็จะได้รับอัตราความเร็วข้อมูลสูงสุด </span><br /></li><li><span style="font-family:arial;">Hybrid Automatic Repeat request (HARQ) เทคนิคนี้ถูกนำมาใช้ในการแก้ค่าผิดพลาด (Correct Errors) ในการส่งสัญญาณของแพ็คเก็จระหว่าง Node B และตัวอุปกรณ์ของผู้ใช้งาน (User' s Device) ตัวอุปกรณ์ได้มีการร้องขอการส่งสัญญาณใหม่อีก ในส่วนของแพ็คเก็จใด ๆ ที่เป็นค่าผิดพลาดในขณะที่กำลังเก็บแพ็คเก็จเก่าที่ไม่ถูกต้องไว้ ดังนั้นตัวอุปกรณืเริ่มรวบรวมแพ็คเก็จทั้งหมดเพื่อแก้ค่าผิดพลาด ซึ่งมันจะเก็บค่าแพ็คเก็จทั้งหมดที่ผิดพลาดและใช้งานเพื่อแก้ไขสัญญาณ จะเป็นวิธีการที่มีความเสถียรภาพและมีประสิทธิภาพมากกว่า </span><br /></li><li><span style="font-family:arial;">HSDPA (High Speed Data Package Access) มีความสามารถในการรับไฟล์ข้อมูลที่มีขนาดใหญ่บนเคื่องโทรศัพท์เคลื่อนที่ของเราได้ เช่น ไฟล์ข้อมูลที่แนบมากับจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (e-mail) การนำเสนองานด้วยโปรแกรม Power Point หรือ Web Page โดยที่โครงข่าย HSDPA มีอัตราความเร็วข้อมูลสูงสุดประมาณ 3 - 6 Mbps สามารดดาวน์โหลดข้อมูลปกติที่เป็นไฟล์ข้อมูลดนตรีที่มีขนาด 3 Mbytes ใช้ระยะเวลาในการดาวน์โหลดไฟล์นี้เพียง 8.3 วินาที และไฟล์ข้อมูลที่เป็นวีดีโอคลิปมีขนาด 5 Mbytes สามารถดาวน์โหลดไฟล์ข้อมูลนี้ใช้เวลาเพียง 13.9 วินาที ซึ่งอัตราความเร็วข้อมูลที่ได้รับจากเทคโนโลยี HSDPA นี้จะมีอัตราความเร็วข้อมูลสูงสุด 14.4 Mbps แต่ผู้ให้บริการโครงข่ายส่วนใหญ่ได้จัดเตรียมอัตราความเร็วข้อมูลอยู่ที่ 3.6 Mbps และในการเปิดให้บริการครั้งแรกจะมีอัตราควมเร้วข้อมูล 7.2 Mbps นั้นมีอัตราการเติบโตเต็มที่รวดเร็วมาก โครงข่าย HSDPA ได้มีการเปิดใช้งานมา 2 ปีแล้ว และได้ถูกจัดวางไว้ในการนำเสนอเป็นบรอด์แบรนด์เคลื่อนที่ (Mobile Broadband) ไปงานทั่วโลก </span><br /></li><li><span style="font-family:arial;">HSUPA เป็นการใช้ประฌบชน์เทคนิคเดียวกับ HSDPA เทอมของการปรับตัวของการเชื่อมโยงบนการมอดุเลชั่นที่ถูกนำมาใช้งานและ HARQ ใช้งานเอปรับปรุง Uplink และสร้างการส่งสัญญาณข้อมูลที่พร้อมกันที่มีขนาดความเร็วข้อมูลสูงถึง 5.4 Mbps มีข้อแตกต่างเพียงเล็กน้อยที่อยู่ในเส้นทางการทำงาน เพื่อที่จะให้บริการอุปกรณ์ได้ทั้งหมดในการ Upload และลดวิธีการมอดุเลชั่น </span><br /></li><li><span style="font-family:arial;">Scheduling นี่คือกลไกการร้องขอี่เกิดขึ้นคล้าย ๆ กับ Fast Packet Scheduling ข้างบน แต่เริ่มต้นโดยตัวอุปกรณ์ ตัวอุปกรณ์ร้องขอให้มีการอนุญาตในการส่งข้อมูลและ Node B จะทำการตรวจสอบอยู่บนเซลล์ที่กำลังรับภาระโหลดร้องขอและระดับกำลังงานที่อยู่ภายในเซลล์เมื่อใดและอุปกรณ์เท่าใดที่ถูกยอมให้อนุญาตและที่อัตราความเร็วข้อมูลเท่าไร </span><br /></li><li><span style="font-family:arial;">Non-Scheduling สำหรับการใช้งานที่แน่นอน เมื่อมีการหน่วงเวลาบนฐานของการ้องขอ Scheduling และอยู่บน Node B ควรจะมีขนาดใหญ่พอ เช่น VoIP มีวิธีการอื่นที่ตัวอุปกรณ์เริ่มต้นส่งสัญญาณ ในกรณีนี้ระดับพลังงานถูกกำหนดโดยตัวอุปกรณ์และมีค่าคงที่ เมื่อมีกิจกรรมี่มีการร้องขอ Schedule ซึ่ง Node B จะตรวจสอบระดับพลังงานของตัวอุปกรณ์ในการส่งสัญญาณและจะถูกควบคุมแบบพลวัต เพื่อให้แน่ใจว่ามีประสิธิภาพสูงสุดสำหรับอุปกรณ์ทั้งหมดทุกตัวที่อยู่บนเซลล์นั้น ๆ </span><br /></li><li><span style="font-family:arial;">HSUPA (High Speed Uplink Access) นี่เป้นการขยายเพิ่มออกไปอีกในการเพิ่มอัตราความเร็วข้อมูล โดยท่เราสามารถติดต่อสื่อสารจากตัวอุปกรณ์เคลื่อนที่ของเรา ตัวอย่างเช่น กรณีนี้เราสามารถอัพโหลดวีดีโอ (Upload Video) ไปยัง YouYube ใช้เวลาเพียงเสี้ยววินาที ดังนั้นเราสามารถแลกเปลี่ยนประสบการณ์กันได้อย่างรวดเร็วแบบทันทีทันใด อัตรความเร็วข้อมูลในการอัพโหลดที่ 384 Kbps ด้วยเทคโนโลยี HSUPA ในขณะที่อัตราความเร็วข้อมูลได้เพิ่มสูงสุดประมาณ 5.7 Mbps ในปัจจุบันนี้ HSUPA สามารถใช้บริการได้เพียงไม่กี่ประเทศ และในปีนี้คาดว่าจะเปิดให้บริการอย่างจริงจังทั่วโลก </span><br /></li><li><span style="font-family:arial;">HSPA Evolved บางครั้งก็อ้างถึง HSPA+ หรือ I-HSPA (มีความแตกต่างกันเล็กน้อยแต่จำนวนเป้าหมายสุดท้ายเหมือนกันสำหรับู้ใช้งาน) ระบบนี้จะเพิ่มอัตราความเร็วข้อมูลของ Downlink ที่จัดเตรียมไว้ 42 Mbps ด้วยการใช้ประโยชน์จากเทคนิคการมอดูเลชั่นแบบ 64 QAM และอัตราความเร็วข้อมูล Uplink สูงถึง 11.5 Mbps ด้วยการใช้เทคนิคการมอดูเลชั่นแบบ 16 QAM สำหรับการเพิ่มในอนาคตเพื่อช่วยให้การรับข้อมูลในการเพิ่มอัตราความเร็วข้อมลเป็นการเสริมของสายอากาศ MIMO (Multiple in multiple out) ปกติถูกนำมาใช้งานในการขยายประสิทธิภาพของระบบโดยมีขนาด 4 เท่า</span></li></ul><p><span style="font-family:arial;">HSPA Evolve หรือที่เรารู้จักเทคโนโลยีนี้ในนามของ HSPA+ นั้น เป็นขั้นตอนต่อไปและได้เป็นที่น่าสนใจอย่างมากในการให้การบริการส่งข้อมูลที่เราสามารถลือกอัตราความเร็วข้อมูลในการส่งข้อมูลให้มีอัตราความเร็วข้อมูลสูงสุดได้ถึง 42 Mbps ในการดาวน์ลิงค์ (Downlink) และมีอัตราความเร็วข้อมุล 11 Mbps สำหรับการอัพลิงค์ (Uplink) ซึ่ง HSPA+ จะนำมาให้บริการได้อย่างเป็นทางการในปลายปี 2008 หรือต้นปี 2009 </span></p><span style="font-family:Arial;"></span><span style="font-family:arial;"><p><br /><strong><span style="color:#3333ff;">ขีดความสามารถในการสื่อสารข้อมูลของ HSPA </span></strong><strong><span style="color:#3333ff;"><br /></span></strong></p><p>ในแง่ของการใช้ประโยชน์จากสถานีฐานโทรศัพท์เคลื่อนที่ 3G เทคโนโลยี HSPA สามารถทำงานได้กับสถานีฐาน WCDMA เดิม รวมถึง สายอากา (Antenna) และสายนำสัญญาณคลื่นวิทยุ (Antenna Feeder) การพัฒนาเครือข่าย WCDMA ไปเป็น HSPA ทำได้โดยการปรับเปลี่ยนซอฟต์แวร์ที่ติดตั้งในอุปกรณ์ในกลุ่มเครือข่ายเข้าถึง และอาจมีการเพิ่มอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์เพยงเล็กน้อยเพื่อรองรับการสื่อสารข้อมูลด้วยอัตราความเร็วที่สูงขึ้นซึ่งถือเป็นการจูงใจในเชิงเศรษฐศาสตร์การลงทุน ที่ผู้ให้บริการเครือข่ายสามารถปรับเปลี่ยนเทคโนโลยีจาก WCDMA ไปเป็น HSPA ด้วยต้นทุนไม่มากนัก และยังคงใช้ประโยชน์จากสินทรัพย์ที่เป็นอุปกรณ์เครือข่าย WCDMA เดิมได้ทั้งหมด ในทางกลับกันก็ได้เพิ่มศักยภาพในการให้บริการสื่อสารข้อมูลอัตราเร็วสูง ซึ่ง HSPA ถือเป็นหนึ่งในมาตรฐานการให้บริการในยุค Broadband Wireless Access (BWA) เช่นเดียวกับเทคโนโลยีคู่แข่งอื่น ๆ เช่น WiMAX และ Flash-OFDM<br />เทคโนโลยี HSPA ในปัจจุบันสามารถตอบสนองการใช้งานของผู้บริโภคได้ในหลายลักษณะตั้งแต่การใช้งานประจำที่ไปจนถึงการใช้งานขณะเดินทางด้วยความเร็วสูง โดยยังคงสามารถรักษาอัตราเร็วในการสื่อสารในระดับ BWA ได้ จึงถือเป็นเทคโนโลยีที่สามารถตอบสนองความต้องการใช้งานได้ในหลายรูปแบบ ในขณะที่เทคโนโลยีในกลุ่ม BWA ชนิดอื่น ๆ เช่น WiMAX ซึ่งแม้จะรองรับการสื่อสารด้วยอัตราเร็วที่สูงกว่า HSPA ในปัจจุบัน แต่ก็มีข้อจำกัดในเรื่องของพฤติกรรมการนำเครื่องลูกข่ายไปใช้งาน เช่น การใช้ในขณะเดินทางเคลื่อนที่แม้จะด้วยความเร็วท่ไม่มากนัก แต่ก็มีผลทำให้อัตราความเร็วในการสื่อสารลดต่ำลง ทำให้เหมาะสำหรับการใช้งานในลักษณะประจำที่มากกว่าประกอบกับเส้นทางในการพัฒนาขีดความสามารถในการสื่อสารข้อมูลของ HSPA ตามที่ได้กล่าวมาในข้างต้น จึงทำให้ HSPAเป็นทางเลือกหลักสำหรับการให้บริการ BWA ทั้งในปัจจุบันและอนาคต </p><p><br /><strong><span style="color:#3333ff;">แนวทางในการเลือกลงทุนเปิดให้บริการเรือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ 3G โดยพิจารณาตามพฤติกรรมการใช้บริการของผู้บริโภค</span></strong> </p><p><br />ในมุมมองของผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่สามารถกำหนดยุทธศาสตร์การลงทุนตามพฤติกรรมการใช้งานของผู้บริโภค และบริหารต้นทุนในการสร้างเครือข่ายได้อย่างสออดคล้องกับแผนกรเงินด้วยการเลือกสร้างเครือข่าย WCDMA เพื่อรองรับการสื่อสารข้อมูลภายในเขตเมือง ในขณะที่ใช้เครือข่าย GSM/GPRS/EDGE รองรับ การสื่อสารในภูมิภาค ซึ่งส่วนใหย่ยังคงเน้นการพูดคุย (Voice) และการสื่อสารข้อมูลทีมีอัตราเร็วไม่มากนัก เช่น การดาวน์โหลดข้อมูลสำหรับการลงทุน HSPA นั้น ผู้ให้บริการยังสามารถเลือกกำหนดพื้นที่หนาแน่นภายในเขตเมือง (Dense Urban) ที่คาดว่าจะมีปริมาณการบริการข้อมูลแบบ BWA สูงมาก ๆ เมื่อศึกษาการใช้งานของผู้บริโภคไประยะหนึ่งแล้ว ก็อาจทยอยพัฒนาอุปกรณ์สถานีฐาน WCDMA ใหมีการทำงานเป็นแบบ HSPA มากขึ้น หรือยิ่งกว่านั้นก็อาจปรับเปลี่ยนสถานีฐาน 2G ที่ทำงานด้วยเทคโนโลยี EDGE ในพื้นที่ภูมิภาคหรือชานเมืองให้เป็นสถานีฐาน WCDMA/HSPA มากขึ้นตามสภาพธุรกิจในมุมมองของการลงทุน จึงนับว่าเส้นทางการพัฒนาของเทคโนโลยี WCDMA และ HSPA ตอบรับกับการขยายธุรกิจของผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ทั้งกลุ่มที่มีเครือข่าย GSM เป็นของตนเองอยู่ก่อนแล้ว และทั้งกลุ่มใหม่ที่เริ่มสนใจเข้ามาลงทุนให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่โดยเริ่มจากการสร้างเครือข่าย WCDMA<br />ขีดความสามารถในการรับส่งข้อมูลของมาตรฐานเทคโนโลยีโทรศัพท์เคลื่อนที่ชนิดต่าง ๆ ในสายตระกูล 3GPP ที่ใช้มาตรฐานการเข้ารหัสสัญญาณแบ CS3 และ CS4 (Coding Scheme 3 และ 4) ซึงเป็นการเข้ารหัสก้อนข้อมูลที่เน้นให้มีส่วนของเนื้อหาข้อมูล (User Payload) มากกว่าส่วนของการรักษาความถูกต้องของข้อมูล (Correction Payload) ทำให้สามารถส่งข้อมูลได้ด้วยอัตราเร็วที่มากกว่า Coding Scheme แบบต่ำ ๆ เช่น แบบ 1 และ 2 แต่ก็มีความเส่ยงท่ข้อมูลจะได้รับความเสียหายจากสัญญาณรบกวนภายในอากาศขณะมีการรับส่ง จากนั้นจึงเป็นกรแสดงขีดความสามารถของมาตรฐาน EDGE ที่ใช้มาตรฐานการเข้าสัญญาณแบบ MCS9 (Modulation and Coding Scheme 9) ซึ่งก็เป็นรูปแบบการเข้ารหัสที่รองรับการส่งข้อมูลด้วยอัตราเร็วสูงสุดในมาตรฐาน EDGE แต่ก็มีความเสี่ยงต่อการถูกรบกวนสูงสุดเช่นกัน ขีดความสามารถในการรับส่งข้อมูลของมาตรฐาน WCDMA (ภายใต้การเรียกชื่อว่า UMTS) รวมถึงมาตรฐาน HSDPA ทั้งหมดนี้เป็นการวัดประเมินประสิทธิภาพในด้านอัตราเร็วของกรสื่อสารในทิศทางรับ (Downlink) จากสถานีฐานไปสู่เครื่องลูกข่าย โดยมีการทดสอบการรับส่งกับข้อมูลต่างประเภทกัน ได้แก่ รูปภาพขนาดเล็ก ๆ (ภาพขนาด VGA ที่ถ่ายจากกล้องของโทรศัพท์เคลื่อนที่) ภาพที่มีขนาดใหญ่ขึ้น (ถ่ายจากกล้องด้วยความละเอียดตั้งแต่ 1 ล้านพิกเซลขึ้นไป) จนถึงไฟล์ที่มีขนาดใหญ่ เช่น คลิปวิดีโอ หรือไฟล์ Power Point<br />ผลที่ได้จากการทดสอบส่งข้อมูลประเภทต่าง ๆ ผ่านเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่แต่ละชนิด พบว่า ยิ่งข้อมูลมีขนาดใหญ่มากขึ้นเท่าใด เทคโนโลยีสื่อสารแบบ HSDPA ก็ยิ่งแสดงประสิทธิภาพในแง่ของการประหยัดเวลาในการับส่งข้อมูลในอัตราที่สูงมากขึ้นเมื่อเทียบกับโทรศัพท์เคลื่อนที่รุ่นก่อนหน้า แม้กระทั่งเมื่อเปรียบเทียบกับมาตรฐานโทรศัพท์เคลื่อนที่ WCDMA ที่มีอัตราเร็วในการรับส่งข้อมูลสูงสุด 384 กิโลบิตต่อวินาที ซึ่งในทางปฏิบัติผู้ใช้บริการก็ยากที่จะได้รับช่องสัญญาณอัตราเร็วเท่านี้ เนื่องจากต้องมีการแบ่งแบรนวิดท์ร่วมกับผู้ใช้บริการรายอื่นในขณะที่การทดลองรับส่งข้อมูลผ่านเครือข่าย HSDPA มีการจำกัดอัตราเร็วของเครือข่ายไว้ที่ 2 เมกะบิตต่อวินาที ซึ่งถือว่เป็นอัตราเร็วเฉลี่ยที่ผู้ใช้บริการจากเทคโนโลยี HSDPA ยิ่งเมื่อเทียบกับงบประมาณในกรลงทุนบนเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่รุ่นก่อน ๆ ซ่งปัจจุบันมีต้นทุนที่ไม่แตกต่างกันมากนักก็ยิ่งทำให้ผู้บริการเครือข่ายสามารถกำหนดกลยุทธ์ในการขยายขีดความสามารถของเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ของตนจาก GSM/GPRS/EDGE หรือแม้กระทั่ง WCDMA ให้เป็นเทคโนโลยี HSPA (HSDPA+HSUPA) ได้อย่างมั่นใจในความคุ้มทุน</p><p><br /><strong><span style="color:#3333ff;">ข้อดีของ HSPA 900 MHz</span></strong><br /><br />อยู่ที่เป็นคลื่นที่ส่งสัญญาณไปได้ไกลกว่า 2100 MHz ทำให้ลดต้นทุนในการติดตั้งอุปกรณ์ แต่ข้อด้อยก็มีอยู่บ้าง เช่น การทะลุทะลวงของคลื่นสัญญาณอาจจะทำได้ไม่ดีนัก เมื่อเทียบกับคลื่น 210 MHz เพราะฉะนั้นสรุปได้ว่า คลื่น 900 MHz ใช้งานในบริเวณที่ราบไม่มีสิ่งกีดขวางมากนัก แต่ 2100 MHz ใช้งานได้ดีในย่านชุมชนที่มีสิ่งกีดขวาง เช่น อาคาร เป็นต้น</p><p><br /><span style="color:#3333ff;"><strong>คุณสมบัติของ HSPA</strong></span><br /></p><ol><li>Hi Speed Internet ในปัจจุบันมาตรฐานของการรับส่งข้อมูลที่เร้วที่สุด ยังอยู่ที่เทคโนโลยี EDGE ซึ่งให้ควมเร็วประมาณ 160 kbps แต่ HSPA ให้ความเร็วในการโหลดข้อมูลที่ 7.2 Mbps ต่างกัน 4.5 เท่า (ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับอุปกรณ์ที่ใช้เชื่อมต่อว่ารองรับความเร็วได้สูงสุดไหร่)<br /></li><li>Video Call ถือว่าเป็นมาตรฐานของเทคโนโลยี 3G ที่มีในโทรศัพท์มือถือ โดยคู่สนทนาจะเห็นหน้าซึ่งกันและกันผ่านกล้องที่อยู่ด้านหน้าโทรศัพท์มือถือ การใช้งานจริงอาจจะมีการดัเลย์บ้างเป็นบางครั้ง แต่โดยรวมถือว่าใช้งานได้ดี<br /></li></ol></span>★♀★ t o o k t i k ★♀★http://www.blogger.com/profile/14571821218239697177noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-6274288431694945927.post-87601068825436481022008-08-12T02:17:00.000-07:002008-08-12T02:59:53.231-07:00ล้ำยุคไปกับระบบติดตามด้วยดามเทียม GPS (Global Positioning System)<span style="font-family:arial;"><strong><span style="color:#3333ff;">การเริ่มต้นของระบบ GPS</span></strong><br /> ก่อนที่จะมีระบบ GPS เรายังไม่เคยมีเครื่องมือที่นำมาใช้บอกตำแหน่งและทิศทางที่สมบูรณ์เลย สิ่งที่มนุษย์เราต้องใช้ตั้งแต่เริ่มเดินทางรอบโลกจะมีก็เพียงแต่เข็มทิศเท่านั้นที่ใช้บอกทิศทาง วิธีสังเกตจากดวงดาว ซึ่งใช้การได้ดีเพราะดาวอยู่ห่างจากโลกเรามาก แต่การวัดดาวทำได้เฉพาะตอนกลางคืนและต้องเป็นคืนที่ท้องฟ้าแจ่มใส เครื่องมือที่ทันสมัยในยุคอิเลคทรอนิคส์ ซึ่งมนุษย์ได้สร้างขึ้นสำหรับการเดินเรือแบบใหม่ชื่อระบบ LORAN ที่ใช้คลื่นวิทยุซึ่งติดตั้งตามพื้นที่ส่วนต่าง ๆ ต่อมาใช้ดาวเทียมเหมือนระบบ GPS คือ ระบบที่เรียกว่า "TRANSIT SYSTEM" หรือ "SATNAV" ทั้งสองระบบที่กล่าวมาข้างต้น ปัจจุบันได้ยกเลิกการใช้งานแล้วเนื่องจากมีข้อบกพร่องในการบอกตำแหน่ง ในส่วนของระบบ LORAN นั้นสามารถที่จะบอกตำแหน่งได้เพียงบริเวณหนึ่งๆเท่านั้นไม่สามารถที่จะทำการบอกตำแหน่งได้ครอบคลุมทั้งหมด ส่วนระบบ TRANSIT นั้น สามารถที่จะบอกตำแหน่งครอบคลุมพื้นที่ได้มากกว่า แต่ก็มีข้อบกพร่อง คือ วงโคจรดาวเทียมของระบบอยู่ในระดับต่ำและมีจำนวนน้อยเกินไป และเนื่องจากระบบ TRANSIT ใช้วิธีการวัดคลื่นแบบDoppler ซึ่งถ้ามีการเคลื่อนไหวเครื่องรับสัญญาณเพียงเล็กน้อยก็จะเกิดความคลาดเคลื่อนในการบอกตำแหน่งไปได้มาก</span><br /><br /><span style="font-family:arial;color:#3333ff;"><strong>วิวัฒนาการของ GPS</strong></span><br /><br /><span style="font-family:arial;">In 1972, the US Air Force Central Inertial Guidance Test Facility (Holloman AFB) conducted developmental flight tests of two prototype GPS receivers over White Sands Missile Range, using ground-based pseudo-satellites.<br />In 1978 the first experimental Block-I GPS satellite was launched.<br />In 1983, after Soviet interceptor aircraft shot down the civilian airliner KAL 007 that strayed into restricted Soviet airspace due to navigational errors, killing all 269 people on board, U.S. President Ronald Reagan announced that the GPS would be made available for civilian uses once it was completed.<br />In 1989, the first modern Block-II satellite was launched.<br />In 1996, recognizing the importance of GPS to civilian users as well as military users, U.S. President Bill Clinton issued a policy directive declaring GPS to be a dual-use system and establishing an Interagency GPS Executive Board to manage it as a national asset.<br />On May 2, 2000 "Selective Availability" was discontinued as a result of the 1996 executive order, allowing users to receive a non-degraded signal globally.<br />In 2004, the United States Government signed a historic agreement with the European Community establishing cooperation related to GPS and Europe's planned Galileo system.<br />In 2004, U.S. President George W. Bush updated the national policy, replacing the executive board with the National Space-Based Positioning, Navigation, and Timing Executive Committee.<br />November 2004, QUALCOMM announced successful tests of Assisted-GPS for mobile phones.<br />In 2005, the first modernized GPS satellite was launched and began transmitting a second civilian signal (L2C) for enhanced user performance.</span><br /><p><span style="font-family:arial;"><strong><span style="color:#3333ff;">ส่วนประกอบของระบบ GPS</span></strong><br /></span></p><ul><li><span style="font-family:arial;">ส่วนอวกาศ Space Segment (SS)</span></li><br /><li><span style="font-family:arial;">ส่วนควบคุม Control Segment (CS)</span></li><br /><li><span style="font-family:arial;">ส่วนผู้ใช้ User Segment (US)</span></li></ul><p><span style="font-family:arial;color:#3333ff;"><strong>วงโคจรของดาวเทียม GPS</strong></span></p><ul><li><span style="font-family:arial;">ลักษณะของวงโคจรของดาวเทียมจีพีเอสมีลักษณะแบบ Non-Geostationary orbit </span></li><br /><li><span style="font-family:arial;">จำนวน 6 วงโคจร แต่ละวงประกอบด้วยดาวเทียม อย่างน้อยจำนวน 4 ดวง </span></li><br /><li><span style="font-family:arial;">โคจรเอียงทำมุม 55 องศา กับเส้นศูนย์สูตร</span></li><br /><li><span style="font-family:arial;">โคจรรอบโลกสูงจากพื้นผิวโลก เป็นระยะทาง 20,200 กม.โดยประมาณ<br />ซึ่งลักษณะของวงโคจรถูกออกแบบมาให้ทุกพื้นที่บนโลกสามารถมองเห็นดาวเทียม ได้อย่างน้อย 4 ดวง</span></li></ul><p><span style="font-family:arial;color:#3333ff;"><strong>ภาคพื้นดินสถานีควบคุม (Control Station Segment)</strong></span></p><p><span style="font-family:arial;"> ส่วนนี้จะคอยควบคุมสั่งการและดูแลดาวเทียม ตรวจตราความเรียบร้อยของระบบ ส่งค่าการแก้ไขปรับแต่งต่างๆเช่น ข้อมูลวงโคจร ข้อมูลเวลา</span></p><ul><li><span style="font-family:arial;">สถานีสังเกตการณ์ (Monitor Station) จำนวน 5 แห่ง กระจายอยู่ตามจุดต่างๆ ของโลก ได้แก่ Hawaii , Kwajalein , Ascension Island , Diego Garcia และ Colorado Spring</span></li><li><span style="font-family:arial;">จานส่งสัญญาณภาคพื้นดิน (Ground Antennas) ซึ่งมีอยู่ด้วยกัน 3 จุด ได้แก่ Ascension Island , Diego Garcia , Kwajalein</span></li><li><span style="font-family:arial;">ศูนย์บัญชาการ (Master Control Station(MCS)) ตั้งอยู่ฐานทัพอากาศสหรัฐฯ Schriever AFB รัฐ Colorado</span></li></ul><p><span style="font-family:arial;color:#3333ff;"><strong>ประเภทเครื่องรับสัญญาณ GPS</strong></span></p><p><span style="font-family:arial;"> สามารถแบ่งได้ 2 ประเภท</span></p><ol><li><span style="font-family:arial;">เครื่องรับสัญญาณจีพีเอสแบบนำหน</span></li><li><span style="font-family:arial;">เครื่องรับสัญญาณจีพีเอสแบบรังวัด</span></li></ol><ul><li><span style="font-family:arial;">เครื่องรับสัญญาณจีพีเอสแบบนำหน ( Navigation Receiver) รับสัญญาณที่เป็นคลื่นวิทยุจากดาวเทียม ในขณะเดียวกันก็สร้างรหัส C/A (Coarse/Acquisition) ขึ้นมาเปรียบเทียบกับรหัสที่ถอดได้จากสัญญาณ เมื่อเปรียบเทียบได้รหัสที่ตรงกันจะทำให้รู้เวลาที่คลื่นวิทยุใช้ในการเดินทางจากดาวเทียมมายังเครื่องรับ ในการหาตำแหน่ง ( แบบ 3มิติ) ต้องวัดระยะทางไปยังดาวเทียมพร้อมกัน 4 ดวง หากจำนวนดาวเทียมน้อยกว่า 3 ดวง ค่าตำแหน่งที่ได้จะไม่มีความน่าเชื่อถือและในกรณีที่มีดาวเทียมอยู่ในท้องฟ้ามากกว่า 4 ดวง เครื่องรับจะเลือกดาวเทียม 4 ดวง ที่มีรูปลักษณ์เชิงเรขาคณิตที่ดีที่สุด หรือมีค่า PDOP ต่ำที่สุดมาใช้ในการคำนวณตำแหน่งของเครื่องรับ</span></li><li><span style="font-family:arial;">เครื่องรับสัญญาณจีพีเอสแบบรังวัด<br />- การทำงานของเครื่องรับแบบรังวัดมีหลักการสำคัญ 3 ประการ<br />(1) การใช้คลื่นส่งวัดระยะแทนการใช้รหัส C/A วัดระยะ ทำให้การวัดระยะมีความถูกต้องมากขึ้นเป็นพันเท่า<br />(2) การใช้วิธีการวัดแบบสัมพัทธ์เป็นวิธีการขจัดความคลาดเคลื่อนแบบมีระบบ (Systematic Errors) ที่อยู่ในข้อมูลหรือที่เกิดขึ้นในการวัดระยะทางให้หมดไปหรือลดน้อยลงได้ ด้วยเหตุนี้ความคลาดเคลื่อนทางตำแหน่งจึงลดลง<br />(3) การวัดระยะด้วยคลื่นส่ง เครื่องรับสัญญาณวัดระยะระหว่างเครื่องรับกับดาวเทียมได้เพียงบางส่วนเท่านั้น จำเป็นต้องอาศัยการประมวลผลช่วยหาระยะที่ขาดหายไป<br />- วิธีการทำงานคือ นำเครื่องรับแบบรังวัดไปวางที่หมุดที่ต้องการหาตำแหน่งเปรียบเทียบกันเป็นเวลาตั้งแต่ 30 นาทีขึ้นไป จากนั้นนำข้อมูลที่ได้จากการรับสัญญาณมาประมวลผลได้เป็น เส้นฐาน และนำข้อมูลดังกล่าว มาประมวลผลร่วมกับข้อมูลที่ได้จากการรังวัดตำแหน่งอื่นๆ ที่ต้องการทราบค่าเพื่อหาค่าพิกัดที่ถูกต้องของตำแหน่งนั้น การทำงานรังวัด</span></li></ul><p><span style="font-family:arial;color:#3333ff;"><strong>หลักในการบอกตำแหน่ง GPS</strong></span></p><p><span style="font-family:arial;">การทำงาน GPS แบ่งออกได้เป็น 5 ขั้นตอน คือ</span></p><ol><li><span style="font-family:arial;">การรับสัญญาณจากดาวเทียมโดยหลักการรูปสามเหลี่ยมระหว่างดาวเทียมกับเครื่องรับ</span></li><li><span style="font-family:arial;">GPS วัดระยะโดยใช้เวลาเดินทางของคลื่นวิทยุ</span></li><li><span style="font-family:arial;">ในดาวเทียมและเครื่องรับจำเป็นจะต้องมีนาฬิกาที่ละเอียดสูงมาก</span></li><li><span style="font-family:arial;">นอกจากระยะทางแล้วจะต้องทราบตำแหน่งของดาวเทียมที่อยู่ในอวกาศด้วย</span></li><li><span style="font-family:arial;">ในชั้นบรรยากาศไอโอโนสเฟียร์ (Ionosphere) และชั้นบรรยากาศโลก (Atmosphere) ความเร็วคลื่นวิทยุเดินทางได้ช้าลง จึงต้องทำการแก้ไขจุดนี้ด้วย</span></li></ol><p><span style="font-family:arial;color:#3333ff;"><strong>หลักในการบอกตำแหน่ง GPS</strong></span></p><ul><li><span style="font-family:arial;">การรับเอาสัญญาณจากดาวเทียมจีพีเอสอย่างน้อย 4 ดวง</span></li><li><span style="font-family:arial;">สัญญาณที่รับมานี้จะทำให้ทราบข้อมูลที่สำคัญต่อการคำนวณตำแหน่งของเครื่องรับสัญญาณ คือตำแหน่งของดาวเทียมแต่ละดวง และเวลาที่สัญญาณเดินทางมาถึง</span></li><li><span style="font-family:arial;">ซึ่งจะทำให้ทราบระยะทางจากดาวเทียมถึงเครื่องรับจีพีเอส โดยการนำเอาเวลาที่ได้หลังจากตัดความคลาดเคลื่อนของเวลา มาคูณกับความเร็วแสง </span></li><li><span style="font-family:arial;">ระยะทางที่ได้นี้คือ Pseudorange มาทำการแก้สมการเพื่อหาค่าที่ไม่ทราบค่า จากสมการ</span></li></ul><p><span style="font-family:arial;color:#3333ff;"><strong>ความคลาดเคลื่อนของระบบ GPS</strong></span></p><p><span style="font-family:arial;">ค่าความผิดพลาดในการหาตำแหน่งมีอยู่ 2 ประเภท คือ</span></p><ol><li><span style="font-family:arial;">Correctable Error แก้ไขได้ จะเป็นค่าความผิดพลาดที่เกิดขั้นเหมือน ๆ กันกับเครื่องรับ GPS ทุกเครื่องที่อยู่ในบริเวณเดียวกัน</span></li><li><span style="font-family:Arial;">Non-Correctable Error แก้ไขไม่ได้ จะเป็นค่าความผิดพลาดแบบที่ไม่มีความสัมพันธ์กันเลย ในระหว่างเครื่องรับทุกเครื่องที่อยู่ในบริเวณเดียวกัน</span></li></ol><p><span style="font-family:Arial;color:#3333ff;"><strong>ระบบติดตมด้วยดาวเทียมอื่น ๆ</strong></span><br /><em>Beidou</em> – China's regional system that China has proposed to expand into a global system named COMPASS.<br /><em>Galileo</em> – a proposed global system being developed by the European Union, joined by China, Israel, India, Morocco, Saudi Arabia, South Korea, and Ukraine, planned to be operational by 2011–12.<br /><em>GLONASS</em> – Russia's global system which is being restored to full availability in partnership with India.<br />Indian Regional Navigational Satellite System (IRNSS) – India's proposed regional system.<br /><em>QZSS</em> – Japanese proposed regional system, adding better coverage to the Japanese Islands. </p>★♀★ t o o k t i k ★♀★http://www.blogger.com/profile/14571821218239697177noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-6274288431694945927.post-57291558037773228662008-07-16T02:47:00.000-07:002008-07-16T23:14:31.819-07:00ถุงนั้นสำคัญไฉน<span style="font-size:130%;color:#3333ff;"><strong>ถุงนั้นสำคัญไฉน (ถุงยางอนามัย)</strong></span><br /><br /><span style="font-size:130%;">ถุงยางอนามัย เป็นอุปกรณ์คุมกำเนิด ทำด้วยวัสดุจากยางพารา หรือโพลียูรีเทน โดยมีทั้งแบบสำหรับผู้ชายและผู้หญิง ส่วนหใญ่ฝ่ายชายจะเป็นฝ่ายใช้ โดยใช้สวมตครอบอวัยวะเพศชายขณะร่วมเพศ โดยเมื่อฝ่ายชายหลั่งน้ำอสุจิแล้ว น้ำอสุจิจะถูกเก็บไว้ในถุงยางอนามัย ช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ และยังช่วยป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้ด้วย</span><br /><span style="font-size:130%;"></span><br /><strong><span style="font-size:130%;color:#3333ff;">ชนิดของถุงยางอนามัย</span></strong><br /><span style="font-size:130%;">ถุงยางอนามัยที่มีการผลิตจำหน่ายในโลกนี้ มี 3 ชนิดตามวัสดุที่ใช้</span><br /><br /><br /><ol><li><span style="font-size:130%;"><strong><em>ชนิดที่ทำจากลำไส้สัตว์ (Skin condom)</em></strong> วัสดุที่ใช้ผลิตเป็นส่วนของลำไส้ส่วนล่างของแกะ ที่เรียกว่า caecum มีใช้ในอเมริการ้อยละ 5 เขาว่าใช้แล้วรู้สึกสบายยามส่วนใส่ ไม่รัดรูป ให้ความรู้สึกสัมผัสที่ดีในขณะมีเพศสัมพันธ์ เชื่อว่าวัสดุจากลำไส้สัตว์สามารถสื่อผ่านความอบอุ่นของร่างกายสู่กันได้ และความชุ่มชื่นจากสารคัดหลั่งสามารถซึมผ่านเนื้อเยื่อได้ แต่เนื่องจากผิวของวัสดุมีรูพรุนเล็ก ๆ ที่ขวางได้เฉพาะตัวอสุจิเท่านั้น จึงไม่สามารถป้องกันเชื้อโรคติดต่อทางเพษสัมพันธ์ได้ skin condom มีความหนา 0.15 มิลลิเมตร และไม่สามารถยืดตัวได้ (แต่มีความอ่อนนุ่ม) จึงสวมใส่แบบหลวม ๆ ไม่รัดแนบแน่นแบบที่ทำจากยางธรรมชาติ ขนาดความกว้างเมื่อวางแบนราบ มีตั้งแต่ 62 มิลลิเมตร ถุง 80 มิลลิเมตร ถุงยางชนิดนี้ไม่มีการผลิตจำหน่ายในเมืองไทย</span></li><li><span style="font-size:130%;"><strong><em>ชนิดที่ทำจากน้ำยางธรรมชาติ (rubber condom latex condom)</em></strong> จากวัสดีที่ทำนี่เองจึงเป็นที่มาของคำว่า "ถุงยางอนามัย" ถุงยางที่ถูกสุขอนามัย สะอาด ถุงยางอนามัยที่มำจากยางธรรมชาตินี้มีราคาถูกกว่า บางกว่า ยืดหยุ่นได้ดีกว่าแบบที่ทำจากลำไส้สัตว์ จึงมีขนาดความกว้างน้อยกว่า การสวมใส่กระชับรัดแนบเนื้อ สามารถใช้ได้ทั้งเพื่อการคุมกำเนิด และป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้ด้วย</span></li><li><span style="font-size:130%;"><strong><em>ชนิดที่ทำจาก Polyurethane (ถุงยางพลาสติก)</em></strong> ปัจจุบันได้มีการนำวัสดุอื่นมาผลิตเป็นถุงยางอนามัย เช่น สาร Polyurethane เพราะถุงยางอนามัยที่ทำจากยางธรรมชาติก็มีข้อด้อย เช่น แพ้ รั่วได้ ใช้สารล่อลื่นบางชนิดไม่ได้ กลิ่นไม่ค่อยชวนดม เรียกถุงยางอนามัยชนิดนี้ว่า ถุงยางพลาสติก (plastic condom) แต่ถุงยางชนิดนี้ให้ความรู้สึกที่ดีกว่าแบบที่ทำจากน้ำยางธรรมชาติ คงทนกว่าแบบยางธรรมชาติ สามารถใช้สารหล่อลื่นที่ทำจากผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีได้ เท่าที่มีจำหน่ายในสหรัฐอเมริกา ใช้ชื่อ AVANTI เป็นของ DUREX</span></li></ol><p><strong><span style="font-size:130%;color:#3333ff;">ขนาดของถุงยางอนามัย</span></strong></p><p><span style="font-size:130%;">คุณภาพมาตรฐานและข้อกำหนดของถุงยางอนามัยตามประกาศของกระทรวงสาธารณสุข ปี 2535 ได้กำหนดประเภทของถุงยางอนามัยที่ทำจากน้ำยางธรรมชาติเป็น 13 ประเภท ตามขนาดความกว้าง คือตั้งแต่ขนาด 44 มิลลิเมตร จนถึงขนาด 56 มิลลิเมตร และกำหนดความยาวของถุงยางวัดจากปลายเปิดจนถึงปลายปิด ไม่รวมส่วนมี่เป็นติ่งหรือกระเปาะ ต้องไม่น้อยกว่า 160 มิลลิเมตร ซึ่งกำหนดตามมาตรฐานขององค์การกำหนดมาตรฐานระหว่างประเทศ (ISO) ปี ค.ศ. 1990</span></p><p><span style="font-size:130%;">สำหรับตลาดในเมืองไทยเท่าที่มีจำหน่ายมีอยู่ 2 ขนาด คือขนาดใหญ่กับขนาดยักษ์ </span></p><p><span style="font-size:130%;"><strong><em>ข</em></strong></span><span style="font-size:130%;"><strong><em>นาดใหญ่</em> </strong>หรือขนาด 49 มิลลิเมตร มีขนาดความกว้างเมื่อวางถุงยางที่คลี่แล้วแบนราบกับพื้น วัดจากขอบหนึ่งถึงขอบหนึ่ง 49 มิลลิเมตร มีขนาดความกว้างไม่น้อยกว่า 160 มิลลิเมตร ขนาดนี้เหมาะกับคนไทยมากที่สุด</span></p><p><span style="font-size:130%;"><strong><em>ขนาดยักษ์</em></strong> หรือขนาด 52 มิลลิเมตร ความกว้างเมื่อวางแบนราบเท่ากับ 52 มิลลิเมตร ความยาวเท่ากับ 180 มิลลิเมตร</span></p><p><span style="font-size:130%;color:#3333ff;"><strong>ขั้นตอนการใช้ถุงยางอนามัย</strong></span></p><ol><li><span style="font-size:130%;">บรรจงฉีกซองอย่างระมัดระวัง แล้วหยิบออกจากซองอย่างนิ่มนวล ระวังอย่าให้ถุงยางอนามัยสัมผัสกับเล็บหรือของประดับที่มีคม</span></li><li><span style="font-size:130%;">ถุงยางอนามัยบรรจุในซองในลักษณะม้วนเป็นรูปวงแหวน ให้รอยม้วนอยู่ด้านนอก คลี่ถุงยางออกมาสัก 1 - 2 เซนติเมตร</span></li><li><span style="font-size:130%;">ใช้นิ้วหัวแม่มือและนิ้วชี้บีบกระปาะ (ติ่งตรงปลาย) ไล่ลมออก น้ำมาครอบปลายอวัยวะเพศ (ถ้าหนังหุ้มยาวต้องรูดขึ้นไปให้พ้นปลายหัว)</span></li><li><span style="font-size:130%;">ใช้อีกมือรูดถุงยางขึ้นไปจนถึงโคร (อีกมือยังคงบีบปลายดิ่งอยู่)</span></li><li><span style="font-size:130%;">ถ้าใส่ถูกต้อง ตรงติ่งต้องแบนไม่มีลมอยู่ภายใน (ถ้าเป็นแบบปลายมาต้องเหลือปลายถุงยางไว้สัก 1 เซนติเมตร) ทั้งนี้เพื่อป้องกันถุงยางอนามัยแตก</span></li><li><span style="font-size:130%;">ถ้าความหล่อลื่นไม่พอ ก็สามารถทาสารหล่อลื่นเพิ่มเติมได้ แต่ต้องหลังจากสวมใส่แล้ว และสารหล่อลื่นที่ใช้ต้องมีส่วนผสมเป็นน้ำ หรือซิลิโคน เช่น ky - jelly อย่ามักง่ายใช้วาสลีนโดยเด็ดขาด เพราะวาสลีนเป็นเจลที่มี petroleum เป็นส่วนประกอบ</span></li><li><span style="font-size:130%;">หลังจากมังกรพ่นพิษ ห้ามรอดูผลงาน ห้ามแช่ ต้องรีบถอยถอนสมอโดยเร็วก่อนที่นกเขาจะหลับ ไม่งั้นถุงยางจะหลุดค้างคาในถ้ำ</span></li><li><span style="font-size:130%;">ตอนถอดสมอ มือต้องจับขอบปลายส่วนเปิดไว้ด้วย ไม่งั้นถุงยางอาจถูกหนีบออกแต่ตัว แต่เสื้อหลุดได้ และเมื่อออกมาแล้วต้องระมัดระวังมืออย่าไปโดนด้านนอกของถุงยางที่มีสารคัดหลั่งของฝ่ายหญิงอยู่ อาจติดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้ (กรณีมีเพศสัมพันธ์กับหญิงอื่นที่มิใช่ภรรยา)</span></li><li><span style="font-size:130%;">เมื่อถอดออกแล้ว จะทดสอบรอบรั่วได้ โดยเอาไปรองน้ำจากก๊อก ใส่ถุงยางที่ใช้แล้ว ถ้ารั่วก็จะเห็นได้</span></li></ol><p><span style="font-size:130%;color:#3333ff;"><strong>ประสิทธิภาพของถุงยางอนามัยในการป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์</strong></span></p><ol><li><span style="font-size:130%;">โรคเอดส์ ป้องกันมากกว่า 90%</span></li><li><span style="font-size:130%;">โรคไวรัสอักเสบ บี ป้องกันมากกว่า 90%</span></li><li><span style="font-size:130%;">หูดหงอนไก่ ไม่ได้ผล หรือป้องกันได้ 10 - 50%</span></li><li><span style="font-size:130%;">หนองในเทียม ป้องกันได้ 50 - 90%</span></li><li><span style="font-size:130%;">หนองในแท้ ป้องกันมากกว่า 90%</span></li><li><span style="font-size:130%;">พยาธิในช่องคลอด ป้องกันมากกว่า 90%</span></li><li><span style="font-size:130%;">ซิฟิลิส ป้องกันได้ 50 - 90%</span></li><li><span style="font-size:130%;">โรคเริม ป้องกันได้ 10 - 50%</span></li><li><span style="font-size:130%;">โรคแผลริมอ่อน ป้องกันได้ 10 - 50%</span></li></ol><p><span style="font-size:130%;color:#3333ff;"><strong>เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย</strong></span></p><p><span style="font-size:130%;"><em>หากสินค้าแบรนด์ดังทั้งหลายหันมาผลิต ถุงยาง ดูสิว่ายี่ห้อไหนโดนใจคุณ</em></span></p><ul><li><span style="font-size:130%;">ถุงยางเลย์ อร่อยชิ้นเดียวไม่เคยพอ</span></li><li><span style="font-size:130%;">ถุงยางแมคโดนัลด์ อร่อยรส สนุกล้ำ</span></li><li><span style="font-size:130%;">ถุงยาง M&M ละลายในปากไม่ละลายในมือ</span></li><li><span style="font-size:130%;">ถุงยางคลอสเตอร์ รสชาติที่คุณดื่มได้</span></li><li><span style="font-size:130%;">ถุงยางลีโอ ถูกคอ ถูกใจ</span></li><li><span style="font-size:130%;">ถุงยางไนกี้ Just Do It</span></li><li><span style="font-size:130%;">ถุงยางแป๊ปซี่ รสชาติของคนรุ่นใหม่</span></li><li><span style="font-size:130%;">ถุงยางเอนเนอร์ไจเซอร์ ให้พลังงานนานกว่าถุงยางธรรมดาถึง 7 เท่า</span></li><li><span style="font-size:130%;">ถุงยางแอร์โรว์ เอกลักษณ์ของเอกบุรุษ</span></li><li><span style="font-size:130%;">ถุงยางมิต้า เล็ก ๆ มิต้าไม่ ใหญ่ ๆ มิต้าทำ</span></li><li><span style="font-size:130%;">ถุงยางโค้ก ส่งถุงยางส่งยิ้ม</span></li><li><span style="font-size:130%;">ถุงยางเอไอเอส ถุงยางเหนือระดับ ทุกที่ ทุกเวลา</span></li><li><span style="font-size:130%;">ถุงยางใกล้ชิด รักแท้แพ้ถุงยาง</span></li><li><span style="font-size:130%;">ถุงยางวอลโว่ ทุกชีวิตปลอดภัยในถุงยาง...</span></li><li><span style="font-size:130%;">ถุงยางลิโพ คำเตือน : ห้ามใช้เกินวันละ 2 ห่อ และโปรดอ่านคำเตือนบนฉลากก่อนใช้ทุกครั้ง</span></li></ul><p><span style="font-size:130%;color:#3333ff;"><strong>โรคเอดส์</strong></span></p><ul><li><span style="font-size:130%;color:#000000;">เอดส์ พบครั้งแรกในจังหวัดเชียงใหม่ พ.ศ. 2531 หรือ 20 ปีที่ผ่านมา</span></li><li><span style="font-size:130%;">เอดส์ จะปรากฎอาการระยะที่ 2 ใน 7 - 10 ปี</span></li></ul>★♀★ t o o k t i k ★♀★http://www.blogger.com/profile/14571821218239697177noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-6274288431694945927.post-40100776103326036642008-07-12T10:02:00.000-07:002008-07-13T02:34:13.001-07:00การจัดการองค์กรให้สอดคล้องกับยุคปัจจุบัน<span style="color:#3333ff;"><em><span style="font-size:130%;color:#3333ff;"><strong>ความสำคัญขององค์กร</strong></span></em><br /></span><span style="font-size:130%;">องค์กร หมายถึง กลุ่มคนจำนวนตั้งแต่สองคนขึ้นไปที่มารวมกัน เพื่อทำงานด้วยกันภายใต้โครงสร้างองค์กรที่กำหนดไว้ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายอย่างใดอย่างหนึ่งของกลุ่มที่ตั้งไว้</span><br /><br /><span style="color:#3333ff;"><em><span style="font-size:130%;"><strong>การจัดการ</strong></span></em><br /></span><span style="font-size:130%;">การจัดการ หมายถึง การจัดการทรัพยากรการบริหารมาใช้ในการดำเนินการ ให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่วางไว้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล อันประกอบด้วยกระบวนการวางแผน การควบคุม การอำนวยการและประสานการทำงานของฝ่ายต่าง ๆ ให้สำเร็จลุล่วงไปได้อย่างราบรื่น เพื่อให้ธุรกิจบรรลุผลสำเร็จตามแผนงานและโครงการที่วางไว้<br /></span><span style="font-size:130%;"></span><span style="font-size:130%;"></span><ol><li><span style="font-size:130%;">Planning การวางแผน</span></li><li><span style="font-size:130%;">Orgazizing การแบ่งงาน</span></li><li><span style="font-size:130%;">Staffing การบริหารงานบุคคล</span></li><li><span style="font-size:130%;">Leading การประสานงาน การบริหารจัดการ</span></li><li><span style="font-size:130%;">Controlling ตัวชี้วัด การประเมินผลงาน</span></li></ol><br /><span style="font-size:130%;"><em><span style="color:#3333ff;"><strong>Organization System</strong></span></em></span><br /><ul><li><span style="font-size:130%;">Organization (องค์กร)</span></li><li><span style="font-size:130%;">Objective (วัตุประสงค์)</span></li><li><span style="font-size:130%;">Management (การจัดการ)</span></li></ul><ol><li><span style="font-size:130%;"><em>Organization</em></span></li></ol><ul><li><span style="font-size:130%;">Formal Organization องค์กรที่เป็นทางการ</span></li><li><span style="font-size:130%;">Informal Organization องค์กรที่เกิดขึ้นเป็นครั้งคราว แต่ถ้าหากมีการบริหารงานที่ดีก็จะกลายเป็น Formal Organization</span></li></ul><p><span style="font-size:130%;">Organization แบ่งเป็น 3 ประเภท</span></p><p><span style="font-size:130%;">(1) Public Organization เป็นองค์กรทางราชการ ของรัฐบาลทั้งหมด เช่น ธนาคาร 5 </span><span style="font-size:130%;">แห่ง คือ ธนาคารแห่งประเทศไทย ธนาคารออมสิน ธนาคารกสิกรไทย ธนาคาร</span><span style="font-size:130%;">อาคารสงเคราะห์ ธนาคารกรุงไทย</span></p><p><span style="font-size:130%;">(2) Business Organization เป็นองค์กรทางธุรกิจ ที่ทำให้เกิดผลกำไร</span></p><p><span style="font-size:130%;">(3) Social Organization เป็นองค์กรทางด้านสังคม เช่น บ้าน เครือญาติ</span></p><p><span style="font-size:130%;"><span style="font-size:100%;">องค์ประกอบของคนดี</span> </span></p><ul><li><span style="font-size:130%;">ศีล</span></li><li><span style="font-size:130%;">สมาธิ</span></li><li><span style="font-size:130%;">ปัญญา</span></li></ul><p><span style="font-size:130%;">(1) คนดี คือคนที่รักตัวเอง ไม่สร้างปัญหาแก่ตัวเอง<br />(2) รักพ่อแม่ ไม่สร้างปัญหาให้พ่อแม่ มีความกตัญญู<br />(3) รักสังคม ไม่สร้างปัญหาให้ทรัพยากรมนุษย์</span></p><span style="font-size:130%;"><span style="font-size:100%;">สิ่งที่พ่อแม่ต้องการ<br /></span>(1) ดี<br />(2) เก่ง<br />(3) มีงานทำเป็นหลักเป็นแหล่ง<br /><br /></span><span style="font-size:130%;"></span><span style="font-size:130%;"></span><p><span style="font-size:130%;"><em>2. Objective</em></span></p><ul><li><span style="font-size:130%;">Service Objective</span></li><li><span style="font-size:130%;">Profit or Economic Objective</span></li><li><span style="font-size:130%;">Social Objective</span></li></ul><p><span style="font-size:130%;"><em>3. Management</em></span></p><ul><li><span style="font-size:130%;">Planning</span></li><li><span style="font-size:130%;">Organizing</span></li><li><span style="font-size:130%;">Staffing</span></li><li><span style="font-size:130%;">Leading</span></li><li><span style="font-size:130%;">Controlling</span></li></ul><p><span style="font-size:130%;"><em><strong></strong></em></span></p><p><span style="font-size:130%;color:#3333ff;"><em><strong></strong></em></span></p><p><span style="font-size:130%;color:#3333ff;"><em><strong>การบริหารจัดการ</strong></em></span></p><ul><li><span style="font-size:130%;">Diaming Circle</span></li><li><span style="font-size:130%;">Planning</span></li><li><span style="font-size:130%;">Doing</span></li><li><span style="font-size:130%;">Checking</span></li><li><span style="font-size:130%;">Acting</span></li></ul><p><em><strong><span style="font-size:130%;"></span></strong></em></p><p><em><strong><span style="font-size:130%;color:#3333ff;"></span></strong></em></p><p><em><strong><span style="font-size:130%;color:#3333ff;">3 ทักษะที่ต้องเจอในองค์กร</span></strong></em></p><ol><li><span style="font-size:130%;">Social Organization</span></li><li><span style="font-size:130%;">Plublic หรือ Buainess Organization</span></li><li><span style="font-size:130%;">Technical Sgreen</span></li></ol><p><em><strong><span style="font-size:130%;color:#3333ff;">วิธีการแบ่งเงินเดือนไว้ 4 ส่วน</span></strong></em><br /><br /></p><ol><li><span style="font-size:130%;">ตัวเอง : ใช้จ่ายส่วนตัว</span></li><li><span style="font-size:130%;">พ่อแม่ : ตอบแทนบุญคุณ</span></li><li><span style="font-size:130%;">เก็บออม</span></li><li><span style="font-size:130%;">เหตุฉุกเฉิน</span></li></ol><span style="font-size:85%;"></span><em><strong><span style="font-size:130%;color:#3333ff;">สิ่งที่ทุกหน่วยงานมีให้</span></strong></em><br /><ol><li><span style="font-size:130%;">บรรทัดฐาน (Norm) แบบฟอร์ม ระเบียบกฎเกณฑ์หรือสิ่งที่ต้องปฏิบัติตาม</span></li><li><span style="font-size:130%;">วัฒนธรรมองค์กร (Value) การแต่งกาย การทักทาย เป็นต้น</span></li></ol><span style="font-size:85%;"></span><em><strong><span style="font-size:130%;color:#3333ff;">สาเหตุของความล้มเหลว</span></strong></em><br /><ul><li><span style="font-size:130%;">ใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการทำงานประจำวันมากกว่าการคิดถึงแผนกลยุทธ์</span></li><li><span style="font-size:130%;">ขาดทักษะในการสื่อสาร คือ ทักษะการพูดจูงใจ การฟัง การอ่าน การตีความข้อมูลข่าวสารและการเขียน</span></li><li><span style="font-size:130%;">ขาดทักษะในการทำงานเป็นทีม</span></li></ul><p><em><strong><span style="font-size:130%;"></span></strong></em></p><p><em><strong><span style="font-size:130%;color:#3333ff;"></span></strong></em></p><p><em><strong><span style="font-size:130%;color:#3333ff;">สาเหตุของความล้มเหลวในการจัดการองค์กร</span></strong></em></p><ul><li><span style="font-size:130%;">มีความเชื่อมั่นในตนเองสูง มีอัตตาสูง</span></li><li><span style="font-size:130%;">ตัดสินใจจากสัญชาตญาณมากกว่าข้อมูล</span></li><li><span style="font-size:130%;">ไม่สนใจรายละเอียดของขั้นตอนและเนื้อหาของงาน</span></li><li><span style="font-size:130%;">ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ตนเองได้</span></li></ul><p><em><span style="font-size:130%;"><strong></strong></span></em></p><p><em><strong><span style="font-size:130%;color:#3333ff;"></span></strong></em></p><p><em><strong><span style="font-size:130%;color:#3333ff;">แนวคิดใหม่เกี่ยวกับการจัดการองค์กรในยุคปัจจุบัน</span></strong></em></p><p><span style="font-size:130%;">ที่สำคัญ คือ การจัดการตนเอง (Self-Organization) ซึ่งเป็นระบบที่ปรับตัวได้ ยืดหยุ่นได้ ฟื้นฟูตัวเองได้ กลับสู่สภาพเดิมได้ง่าย รู้จักเรียนรู้ด้วยตัวเองและมีปัญญาเป็นของตัวเอง เมื่อใดก็ตามที่เกิดการเปลี่ยนแปลงก็สามารถปรับตัวและจัดการตนเองเสียใหม่ จนพัฒนาเป็นระบบที่ซับซ้อนขึ้นได้เอง โดยไม่ต้องมีการบังคับทิศทางหรือรูปแบบจากภายนอก คุณสมบัติเหล่านี้เป็นคุณสมบัติของสิ่งมีชีวิต และเป็นคุณสมบัติของผู้นำทุก ๆ คน</span></p><p><em><span style="font-size:130%;color:#3333ff;"><strong></strong></span></em></p><p><em><span style="font-size:130%;color:#3333ff;"><strong>หลักการที่สำคัญมีอยู่ <span style="font-size:100%;">3 </span>ประการ</strong></span></em></p><ol><li><span style="font-size:130%;">ตัวตน (Identity) ความเข้าใจร่วมกันขององค์กร การจัดการองค์กรทุกองค์กรนั้นจะต้องมีตัวตนที่ถูกจัดการ</span></li><li><span style="font-size:130%;">ข้อมูล (Information) สื่อขององค์กร ข้อมูล คือ หัวใจสำคัญของการดำเนินชีวิต เป็นสิ่งที่ทุก ๆ คนเข้าถึงได้ และมีพร้อมอยู่เสมอ</span></li><li><span style="font-size:130%;">ความสัมพันธ์ (Relationships) เส้นทางเชื่อมโยงภายในองค์กร ความสัมพันธ์ คือ เส้นทางสู่ปัญญาของระบบ</span></li></ol><p><span style="font-size:85%;"></span></p><p><em><strong><span style="font-size:130%;color:#3333ff;"></span></strong></em></p><p><em><strong><span style="font-size:130%;color:#3333ff;">องค์กรที่จะประสบผลสำเร็จต้องประกอบด้วย</span></strong></em></p><ul><li><span style="font-size:130%;">การยอมรับการเปลี่ยนแปลงกระบวนการ</span></li><li><span style="font-size:130%;">ความสามารถของพนักงานในการปรับปรุง</span></li><li><span style="font-size:130%;">โครงสร้างองค์กรที่เหมาะสม</span></li><li><span style="font-size:130%;">การสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ</span></li><li><span style="font-size:130%;">การมีตัวชี้วัดที่ดีที่สุด</span></li></ul><p><span style="font-size:85%;"></span></p><p><em><strong><span style="font-size:130%;color:#3333ff;"></span></strong></em></p><p><em><strong><span style="font-size:130%;color:#3333ff;">หลัการทรงงานของในหลวง</span></strong></em></p><p><span style="font-size:130%;">ได้ประโยชน์สูงสุด ทำให้ง่าย</span></p><p><span style="font-size:130%;">ขาดทุนคือกำไร พออยู่ พอกิน รู้รักสามัคคี</span></p><p><span style="font-size:130%;">ทำตามลำดับขั้น ใช้ธรรมชาติช่วยธรรมชาติ</span></p><p><span style="font-size:130%;">ไม่ติดตำรา มุ่งประโยชน์คนส่วนใหญ่</span></p><p><span style="font-size:130%;">บริการรวมที่จุดเดียว เศรษฐกิจพอเพียง</span></p><p><span style="font-size:130%;">ทำงานอย่างมีความสุข รู้รักสามัคคี</span></p><p><span style="font-size:130%;">ศึกษาข้อมูลอย่างเป็นระบบ ภูมิสังคม</span></p><p><span style="font-size:130%;">แก้ปัญหาที่จุดเล็ก ใช้อธรรมปราบอธรรม</span></p><p><span style="font-size:130%;">การมีส่วนร่วม การพึ่งตนเอง</span></p><p><span style="font-size:130%;">องค์รวม ความเพียร</span></p><p><span style="font-size:130%;">ระเบิดขากข้างใน ประหยัด เรียบง่าย</span></p><p><span style="font-size:130%;">การให้ทฤษฎีโดมิโน ปลูกป่าในใจคน</span></p><p><span style="font-size:85%;"></span></p><p><span style="font-size:85%;"></span></p><p><span style="font-size:85%;"></span></p>★♀★ t o o k t i k ★♀★http://www.blogger.com/profile/14571821218239697177noreply@blogger.com0